22 กรกฎาคม 2554

ทางสามแพร่ง


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2011

พระธรรม มัทธิว 7:13-14
พระเยซูได้ยกภาพของทางสองสาย หรือประตู 2 ประตูขึ้นมา เพื่อชี้ให้เห็นว่าปลายทางของถนนแต่ละสายนั้นมีปลายทางที่แตกต่างกัน ถ้าหากเราเลือกเส้นทางของการเดินที่ถูกต้อง เราก็จะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการได้ แต่ถ้าหากเราเลือกทางเดินที่ผิดเราก็ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจได้ พระเยซูยังได้บอกให้เรารู้ว่า เส้นทางทั้งสองมีความแตกต่างกัน เส้นทางหนึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่เดินเข้าไปในเส้นทางนี้  แต่อีกเส้นทางหนึ่งคนหาพบก็มีน้อย ดูแล้วไม่มีอนาคต  ซึ่งทุกคนจะต้องเลือกเส้นทางของตนเองไม่ว่าเป็นใครก็ตาม เปรียบเสมือนชีวิตของเรา เมื่อวันหนึ่งเราต่างก็เดินทางของชีวิตมาถึงทางสามแพร่ง ซึ่งจะต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเดินไปในเส้นทางไหน เพราะว่าปลายทางมีความแตกต่างกัน พระคัมภีร์ตอนนี้ได้ชี้ให้เราเห็นลักษณะของเส้นทางทั้งสองเส้นนี้ว่าเป็นเส้นทางอะไรและมีลักษณะอย่างไร
1. หนทางสู่ความพินาศ (มธ.7:13)
เส้นทางสายนี้พระคัมภีร์บอกว่าเป็นเส้นทางสู่ความพินาศ ซึ่งมีลักษณะที่เด่นชัดที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างน้อย 2 ประการ คือ
1.1 มีความสะดวกสบาย
พระคัมภีร์บอกให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า ประตูมีขนาดใหญ่และทางก็กว้าง ซึ่งทำให้เราถึงการสัญจรไปมาที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเข้าหรือจะออก ไม่มีสิ่งใดกีดขวางการจราจร ถ้าเปรียบถนนสายนี้ก็เป็นเหมือนกับถนนสายซุปเปอร์ไฮย์เวย์ คนขับรถบนถนนสายนี้ก็จะใช้ความเร็วได้มาก รถเกือบทุกคันที่วิ่งบนถนนไฮย์เวย์ก็จะขับด้วยความเร็วสูง ซึ่งยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นเท่านั้น และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็จะมีความรุนแรงมาก  แต่ไม่ใช่จะเกิดอุบัติเหตุกับรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนถนนสายนี้เสมอไป เช่นเดียวกัน ความสะดวกสบายก็ไม่ใช่นำไปสู่ความพินาศเสมอไป แต่ความสะดวกสบายจะเป็นต้นเหตุ หรือสาเหตุของความสูญเสียมากกว่า  จงอย่าให้ความสะดวกสบายทำลายชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา อย่าให้ความสะดวกสบายทำให้เราเกลียดคร้าญฝ่ายวิญญาณ  เราจะเห็นว่าปัจจุบันคนเราต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ชอบความลำบาก และที่สำคัญไม่อยากลำบาก จึงชอบอะไรแบบเร็วๆ ชอบกินอาหารจานด่วน ชอบเดินทางลัด อยากรวยเร็วๆ โดยอาจจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ แต่เราไม่ได้ปฏิเสธความสะดวกสบายหรือต่อต้านความสะดวกสบาย ความสะดวกสบายต้องเป็นเครื่องมือของเราในการขยายอาณาจักรของพระเจ้า นี่คือสิ่งแรก
1.2 เป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนมาก (มธ.7:13)
เส้นทางสู่ความพินาศนั้น เป็นเส้นทางที่มีลักษณะเด่นอีกอย่างนอกจากความสะดวกสบายแล้ว ก็คือเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนมาก พระคัมภีร์บอกว่า คนที่เข้าไปทางนั้นก็มีมาก เป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงาม เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงชีวิต ไม่ต้องจ่ายราคา สามารถทำตามใจตนเองได้  ไม่ต้องสวนกระแสของสังคมหรือค่านิยมของโลก  เพราะว่ามนุษย์มีความจำกัด เพราะมนุษย์คิดว่าทางของตนเองนั้นดี แต่ปลายทางมันไปสิ้นสุดที่ความตาย (สภษ.16:25) อย่าเป็นเหมือนอย่างโลทที่มองด้วยสายตาฝ่ายเนื้อหนังเพียงเท่านั้น (ปฐก.13:10) บางครั้งเราต้องกล้าที่จะสวนกระแสของสังคมและค่านิยมของโลกนี้  โดยการยืนหยัดในทางของพระเจ้า แม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคบ้างก็ตาม แต่ปลายทางของมันก็จะจบลงที่สวัสดิภาพ  เราต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิต เพื่อเราจะมีชื่อบันทึกไว้ในสมุดของพระเจ้า (วว.20:15) แม้เป็นผู้เชื่อก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน (มธ.7:21-23) นี่คือเส้นทางสู่ความพินาศ

2. หนทางสู่ชีวิตนิรันดร์ (มธ.7:14)
เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่พระเจ้าต้องการให้เราเดินเข้าไปแม้ว่าดูภายนอกเหมือนไม่มีอะไรดี พระเจ้าจึงได้สั่งกับเราทั้งหลายว่า จงเข้าไปทางประตูแคบ (มธ.7:13) ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์  เส้นทางนี้ลักษณะพิเศษ 2 ประการคือ
2.1 ต้องจ่ายราคา (มธ.7:14)
พระเยซูบอกว่าทางก็แคบคนหาพบก็มีน้อย ดังนั้นไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆนั่นเอง ซึ่งเป็นภาพของการที่จะได้อะไรที่มีค่ามาสักอย่างหนึ่งจะต้องออกไปเสะหา ไปค้นหาว่ามันอยู่ตรงไหน และเมื่อหาเจอแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้มันมาเลย จะต้องมีการจ่ายราคาเพื่อให้ได้สิ่งมีค่าสิ่งนั้น แม้พระคัมภีร์จะบอกว่าการได้รับความรอดนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงชื่อด้วยใจสารภาพด้วยปากว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียวก็รอดแล้ว แต่การจะรักษาความรอดเอาไว้จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะต้องพบกับแรงเสียดทาน พบกับการต่อต้าน ข่มเหง การเข้าใจผิด จะต้องมีการจ่ายราคาเพื่อรักษาความรอดเอาไว้ตลอดไป  พระเจ้าเตือนว่าอย่าสำสมทรัพย์สมบัติเอาไว้ในโลก (มธ.6:19-20) เราไม่ได้ขยายอาณาจักรของเรา แต่เราขยายอาณาจักรของพระเจ้า ให้เราใช้ทุกสิ่งที่พระเจ้าให้กับเราไม่ว่ากำลัง ความสามารถ ทรัพย์สินเงินทอง หรืออะไรก็ตาม เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า  เอาชนะความต้องการของเราให้ได้ (มธ.16:24) แม้ว่าเส้นทางของพระเจ้าจะแคบ แต่ก็เต็มไปด้วยพระคุณ พระคุณของพระเจ้ามีเพียงพอสำหรับเราเสอม  ไม่มีชาวนาคนไหนเมื่อเริ่มลงมือไถแล้วจะหันหลังกลับ (ลก.9:62) จงมองไปข้างหน้า มองที่แผนการของพระเจ้า อย่ามัวแต่มองอยู่ที่ปลายจมูก เหมือนคนอิสราเอลที่มองเพียงแต่อาหารการกินในอียิปต์เท่านั้น (กดว.11:5) ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จเราต้องยินดีจ่ายราคา นี่คือประการแรก
2.2 ต้องมีความตั้งใจสูง (มธ.7:14)
คนที่จะเข้าแผ่นดินของพระเจ้าได้จะต้องมีความตั้งใจอย่างสูง ไม่เพียงแค่จ่ายราคาเท่านั้น มีคนมากมายต้องตายไปเพราะว่าไม่มีความอดทนเพียงพอ ไม่มีความตั้งใจเพียงพอ เราเห็นตัวอย่างคนในสมัยของโนอาห์ที่เดินอยู่ในเส้นทางแห่งความพินาศ มีเพียงครอบครัวของโนอาห์ 8 คนเท่านั้นที่รอดตาย หรือตัวอย่างของคนอิสราเองที่พระเจ้านำพวกเค้าออกมาจากอียิปต์หลายล้านคนต้องตายในถิ่นทุรกันดารมีเพียงโยชูวากับคาเรบเท่านั้นที่ได้เข้าสู่ดินแดนพระสัญญา ดังนั้นคนที่มีความตั้งใจอย่างแท้จริงโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาก็จะสามารถเข้าไปในเส้นทางสายนี้ได้จนถึงสุดปลาย มีคนถามพระเยซูว่าคนที่รอดนั้นมีน้อยหรือ พระเยซูตอบเขาว่า ท่านจงเพียรเข้าไปทางประตูที่คับแคบ (ลก.13:23-24) นั้นแสดงว่าต้องมีความพยายามอย่างมาก  พระเยซูบอกว่าพระองค์เป็นประตู ถ้าผู้ใดเข้ามาทางพระองค์ผู้นั้นจะรอด (ยน.10:9) พระองค์ยังบอกต่อไปว่า พระองค์ทรงเป็นความจริงและเป็นชีวิต (ยน.14:6) พระองค์ยอมสละชีวิตเพื่อให้เราได้ชีวิตนี่คือความตั้งใจที่สูงของพระเยซูคริสต์ ดังนั้นเราอย่าล้มเลิกความตั้งใจของเรา อย่าหมดความหวังใจ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.churchofpeace2010.org) 

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น