04 สิงหาคม 2555

ดินสี่ประเภท


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2012

พระธรรม มัทธิว 13:1-23
พระเยซูได้กล่าวคำอุปมาให้กับคนต่างๆ ฟังในเวลานั้น แล้วพระองค์ก็บอกว่า “ใครมีหูจงฟังเถิด” ซึ่งคำอุปมานั้น ในภาษาเดิมหมายถึง “การวางไว้ข้างๆ” ซึ่งเป็นลักษณะของการเปรียบเทียบของสิ่งของสองสิ่ง ที่อาจจะมีลักษณะที่ตรงกันข้ามหรือเหมือนกัน คำอุปมาที่เป็นเรื่องลักษณะเช่นนี้จะทำให้ง่ายต่อการจดจำ แต่จะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้ความคิดและให้ความสนใจอย่างมาก พระเยซูจึงบอกกับสาวกว่าเป็น “ข้อความล้ำลึกแห่งแผ่นดินสวรรค์” (มธ.13:11-13) พระเยซูได้เปรียบเทียบคนที่ได้ยินได้ฟังพระวจนะของพระองค์เป็นเหมือนดิน และพระวจนะเป็นเหมือนเมล็ดพืชที่ได้หว่านลงไป ซึ่งดินในตอนนี้ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. ดินแข็ง (มธ.13:4, 19)
ดินแข็ง หมายถึงคนที่มีใจแข็งกระด้าง ซึ่งเปรียบเสมือนถนนหนทาง ที่ทั้งคนและรถเหยียบย่ำลงไปอยู่เสมอ ทำให้บริเวณนั้นแข็ง เมื่อหว่านเมล็ดพืชลงไป เมล็ดก็ไม่สามารถที่จะฝังตัวลงไปได้ เมื่อลมพัดมาก็จะพัดเอาเมล็ดพืชนั้นไปเสีย หรือเมื่อนกบินผ่านมาเห็นเข้าก็มาจิกกินเสีย เมล็ดที่หว่านลงไปนั้นก็เปล่าประโยขน์ เช่นเดียวกับใจของคนที่แข็งกระด้าง เมื่อได้ยินได้ฟังพระวจนะของพระเจ้า ก็ไม่ได้ซึมซับลงในจิตใจ ไม่ตอบสนองต่อพระวจนะนั้น อ.เปาโลเคยว่าพวกธรรมาจารย์เหมือนมีผ้าคลุมหน้าอยู่ เมื่ออ่านพระวจนะของพระเจ้าแล้วก็ยังไม่เปิดผ้าออก (2คร.3:14-16) เหมือนมีม่านมาปิดบังตาใจของเขาอยู่ อย่าให้อะไรมาเป็นเหมือนม่านที่ปิดบังสายตาฝ่ายวิญญาณของเรา อย่างให้อะไรมาขัดจังหวะเราขณะที่เราฟังพระวจนะของพระเจ้า ให้เราไวต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานอยู่ในชีวิตของเรา หรืออย่าดับพระวิญญาณ (1ธส.5:19) อย่าให้ใจของเราดื้อรั้น (ฮบ.4:7) เพื่อใจของเราจะไม่แข็งกระด้างไปเป็นดั่งดินแข็ง
2. ดินปนหิน (มธ.13:5-6, 20-21)
ดินปนหิน หมายถึงดินที่มีหินปนอยู่ แต่มีเนื้อดินน้อย ซึ่งหมายถึงคนที่ตอบสนองดีแต่ไม่เอาจริงเอาจัง เมื่อได้ยินได้ฟังพระวจนะก็รับเอาทันทีทันใด แต่ไม่ลงลึกกับพระวจนะนั้น ไม่ได้ทำตามอย่างจริงจัง แต่เมื่อเจออุปสรรคปัญหาก็เลิก หรือเมื่อเจอการทดสอบทดลองเล็กๆ น้อยๆ ก็ตกลงไปสู่การทดลองนั้น ทำให้ชีวิตไม่ไปถึงไหนสักที เหมือนคนเมาเหล้า เดินไปข้างหน้าได้สามก้าว และก็เดินถอยหลังกลับมาสองก้าว ขณะที่คนอื่นเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว พระเยซูได้บอกว่าคนเช่นนี้ไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า (ลก.9:62) เราจำเป็นที่จะต้องลงลึกกับพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์ เพื่อเราจะได้ก่อรากขึ้นในพระเจ้า (คส.2:7) เราจะต้องเป็นคนเอาจริงเอาจัง เราต้องอดทน และเอาชนะอุปสรรคและหรือการทดลองต่างๆ ให้ได้ เมื่อเราผ่านพ้นไปแล้ว เราจะเป็นคนที่เห็นการอวยพรจากพระเจ้า
3. ดินปนหนาม (มธ.13:7, 22)
ดินปนหนามหมายถึงดินที่มีต้นหนามหรือต้นไม้อื่นขึ้นปะปนอยู่ด้วย แต่ว่าต้นหนามหรือต้นไม้เหล่านั้นเจริญเติบโตและแข็งแรงกว่า ซึ่งต้นหนามก็ปกคลุมทำให้ต้นไม้หรือพืชอื่นที่งอกขึ้นไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร ซึ่งหมายถึงคนที่เชื่อพระเจ้าแล้วแต่ยังมีความวิตกกังวลในสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้า มีความรักโลกและสิ่งของต่างๆ ในโลกอยู่ ทำให้ไม่สามารถตัดกิเลสตัญหาของตนเองออกไปได้ มีลักษณะเหมือนว่า รักพระเจ้าก็รัก รักความสบายและสมบัติในโลกก็รัก สวรรค์ก็อยากได้ แต่ก็อยากทำตามใจตนเอง พระเยซูบอกว่าไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ (มธ.6:24) เราจะต้องตัดสินใจเลือกที่จะเดินติดตามพระเจ้าหรือว่าทำตามใจตนเอง เราต้องตัดสินใจว่า เราจะไว้วางใจพระเจ้าหรือกระวนกระวายใจต่อไป เพราะเราไม่สามารถทำทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน จงไว้วางใจในพระเจ้า เพราะเรามีความจำกัด
4. ดินดี (มธ.13:8, 23)
ดินดี หมายถึงดินที่มีธาตุอาหารครบถ้วน มีองค์ประกอบต่างๆ ดี เมื่อปลูกพืชอะไรลงไปก็จะให้ผลผลิตดีตามมาด้วย ซึ่งหมายถึงคนที่มีจิตใจพร้อมที่จะตอบสนองและเชื่อฟัง และทำตามพระวจนะของพระเจ้า จิตใจมีการตอบสนองที่ดี เป็นคนใจเปิดพระวจนะของพระเจ้าว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น แม้อาจจะไม่เข้าใจแต่ก็ยินดีเชื่อฟัง คนประเภทนี้ใจเป็นเรื่องสำคัญ ให้เราระวังรักษาใจของเราให้ดี เพราะชีวิตเริ่มต้นที่ใจ (สภษ.4:23) ใจเขาเราตอบสนองมากเท่าไหร่ เราก็จะเกิดผลเท่านั้น พระเจ้าะใหญ่เท่าไหร่ก็เท่ากับใจของเราที่มีต่อพระเจ้านั่นเอง พระวจนะของพระเจ้าจึงบอกว่า เกิดผลสามสิบเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง ร้อยเท่าบ้าง นั่นแสดงว่า เราแต่ละคนจะเกิดผลไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับตัวเรา ขึ่นอยู่กับการตอบสนองของเรา ไม่ใช่พระวจนะของพระเจ้า
ดังนั้นให้เราเป็นคนที่ตอบสนองพระวจนะของพระเจ้า ให้ใจของเราเปิดรับพระวจนะของพระเจ้าแม้ว่าเวลานี้เรายังทำตามที่พระวจนะของพระเจ้าบอกไม่ได้ก็ตาม แต่เราตัดสินใจที่จะกระทำตามนั้นก่อนและเมื่อวันเวลาผ่านไปเราเข้าใจมากขึ้นเราก็สามารถที่จะทำตามได้มากขึ้น แม้ว่าวันนี้เรายังไม่สมบูรณ์แต่พระเจ้าก็ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นให้เราเข้ามาหาพระเจ้าขอรับการช่วยเหลือจากพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น