05 พฤศจิกายน 2553

อธิษฐานแบบพระเยซู


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2010
เทศนาเรื่อง “อธิษฐานแบบพระเยซู”
พระธรรม มัทธิว 6:9-16

                 พระธรรมตอนนี้เป็นคำสอนของพระเยซูเรื่องอย่าทำศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น แต่ต้องทำด้วยท่าทีภายในที่ถูกต้อง ตอนนี้พระเยซูสอนเรื่องการอธิษฐาน บางคนอาจจะจำตัวอย่างคำอธิษฐานตอนนี้ไปอธิษฐานในลักษณะท่องจำ หรือเป็นบทสวด การอธิษฐานที่ถูกต้องไม่ใช่เป็นการท่องจำ หรืออธิษฐานอย่างไรความหมาย แต่สิ่งที่เราพูดหรืออธิษฐานออกมานั้น ต้องออกมาจากความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ทุกคำพูดหรือคำอธิษฐานมีความหมาย จึงจะทำให้คำอธิษฐานของเรามีความหมาย ไม่เพียงเท่านั้น พระเยซูยังสอนหลักการที่สำคัญให้เราอีกผ่านตัวอย่างการอธิษฐานของพระเยซูตอนนี้ ผมจะให้ชื่อคำเทศนาตอนนี้ว่า “อธิษฐานแบบพระเยซู” มีหลักการที่สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1 อธิษฐานต่อพระบิดา (v9)
พระเยซูเริ่มคำอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระบิดา” ซึ่งเป็นการยกย่องพระเจ้าเป็นพระบิดาผู้มีสิทธิอำนาจ ต่อมาได้กล่าวว่า “ผู้ทรงสถิตในสวรรค์” ซึ่งบ่งบอกถึงการที่พระเจ้าทรงอยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง ต่อมาได้กล่าวว่า “ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่สักการะ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการยกย่องพระเจ้าขึ้นสูง ตัวอย่างคำอธิษฐานของพระเยซูมีแต่พระเจ้าเป็นศูนย์กลาง โดยยกพระเจ้าให้สูงขึ้น ดังนั้นการอธิษฐานของเราศูนย์กลางต้องอยู่ที่พระเจ้าไม่ใช่สิ่งอื่นใด หรือมนุษย์คนไหน พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่สูงสุดในทุกเวลาและสมควรได้รับการสรรเสริญ (สดด.96:4) เมื่อเรารู้จักพระเจ้าของเราอย่างแท้จริงแล้ว และท่าทีของเราถูกต้อง คำอธิษฐานของเราก็จะถูกต้องด้วย แต่อย่างอย่างไรก็ตามพระเจ้ามีเอกสิทธิ์ที่จะตอบคำอธิษฐานของเราด้วย เราไม่สามารถจะบังคับให้พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเราได้ ดังนั้นเมื่อเราอธิษฐานเราต้องยกให้พระเจ้าเป็นผู้พิจารณาว่าจะตอบเราอย่างไรหรือไม่ แต่ให้เรามั่นใจว่า พระเจ้าทรงฤทธิ์พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จได้ (มธ.19:26) สิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้แต่พระเจ้าทำได้ (ลก.18:27)
2 อธิษฐานตามน้ำพระทัย (v10)
หมายถึง การอธิษฐานขอให้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสวรรค์เกิดขึ้นในโลกด้วย ขอให้สิ่งที่เป็นพระประสงค์ของพระบิดานั้นสำเร็จตามแผนการของพระองค์ คือการนำความรอดไปสู่คนหมดโลกนี้ นั่นคือการครอบครองของพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่ใช่อธิษฐานขอตามใจเรา แต่ตามใจพระเจ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราอธิษฐานขอในสิ่งที่เราต้องการไม่ได้ เรายังสามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่เราต้องการได้อยู่ แต่ต้องไม่บังคับพระเจ้าให้ตอบสนองตามใจของเรา เราเห็นตัวอย่างของพระเยซูคริสต์ที่อธิษฐานต่อพระบิดาที่สวนเกทเสมนี ก่อนที่พระองค์จะถูกจับ ถึง 3 ครั้ง ว่า “โอ้พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดีอย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์” (มธ.26:39) เมื่อพระเยซูยังพร้อมที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาผู้สถิตย์ในสวรรค์ เราเองก็ควรที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาเช่นเดียวกัน สิ่งที่เราควรปรารถนามากที่สุดไม่ใช่โลกนี้ เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าไม่ใช่การกินและการดื่ม “แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดี” (รม.14:17) ใครก็ตามที่ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า พระเยซูถือว่าผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงของพระองค์ (มก.3:35) ดังนั้นเมื่อเราดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้าแล้ว เวลาเราอธิษฐานขอสิ่งใดเราก็จะอธิษฐานขอตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยเช่นกัน
3 อธิษฐานในเรื่องที่จำเป็นของชีวิต (v11)
การอธิษฐานไม่เพียงเฉพาะการขอที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าท่านนั้น แต่พระเจ้าเห็นถึงความจำเป็นในชีวิตของเรา เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม สิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่เราสามารถทูลขอจากพระเจ้าได้ แต่ตรงกันข้ามเรากลับไม่ได้อธิษฐานทูลขอจากพระเจ้า เพราะเราอาจจะคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องดูแลเราอยู่แล้ว หรือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องได้รับ จึงไม่ค่อยมีใครอธิษฐานทูลขอจากพระเจ้า นอกจากจะอธิษฐานขอพระคุณเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วเราควรทูลขอจากพระเจ้าสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเราทุกวันด้วย แต่ทุกครั้งเราจะต้องอธิษฐานด้วยความเชื่ออย่างมีความหมาย ไม่ใช่เป็นแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่บ่อยครั้งที่เราอธิษฐานเรามักจะอธิษฐานทูลขอสิ่งที่เกินความจำเป็นในชีวิตของเราเป็นส่วนใหญ่ หรือบางครั้งเราอธิษฐานขอจากพระเจ้าก็จริงแต่เราคาดหวังคำตอบจากมนุษย์ บางคนอาจจะติดนิสัยเกรงใจ ไม่ขออะไรจากใครเพราะว่าเกรงใจ จึงไม่ได้อธิษฐานทูลขอจากพระเจ้าด้วยเพราะเกรงใจ พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเกรงใจในการอธิษฐานทูลขอจากพระองค์ แต่เราต้องให้สิทธิ์ในการตอบคำอธิษฐานกับพระองค์มากกว่า ดีที่สุดเมื่อเราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก่อนพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ให้กับที่จำเป็นในชีวิตให้กับเราเอง (มธ.6:31-33) โดยที่เราบางครั้งเราเพียงแต่คิดในใจเท่านั้นพระเจ้าก็ประทานให้กับเราแล้ว เพราะพระเจ้ารู้ถึงความจำเป็นในชีวิตของเรา ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิต ได้อธิษฐานทูลขอจากพระเจ้าขอให้มีเพียงพอ ไม่ต้องมากหรือน้อยเกิดไป (สภษ.30:8-9) จงแสวงหาพระเจ้าและวางใจในพระเจ้า พระองค์จะทรงดูแลเรา ลูกหลานของเราจะไม่มีใครเป็นขอทาน (สดด.37:23-25)
4 อธิษฐานสารภาพบาป (v12, 14-15)
การสารภาพบาปเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระเจ้า พระเยซูสอนให้เราอธิษฐานสารภาพบาปและยกโทษให้กับคนที่ทำผิดกับเรา โดยเริ่มต้นในข้อ 12 ว่า “และขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์” ซึ่งตรงนี้มีความสำคัญอย่างมาก เมื่อเราสารภาพบาปของเรา กำแพงแห่งความสัมพันธ์ก็จะถูกพังทลายลง ไม่มีอะไรมาขวางกั้นระหว่างเรากับพระเจ้าได้อีกต่อไป ดังนั้นเราควรสารภาพบาปของเราทุกวัน การสารภาพบาปไม่เพียงแต่เป็นการขอการยกโทษเท่านั้น แต่เป็นกุญแจหลักของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนเงื่อนไข คือการให้อภัย ไม่ใช่เราเรียกร้องขอการยกโทษจากพระเจ้า แต่เราไม่ให้อภัยคนอื่นที่ทำผิดกับเรา ทุกครั้งที่เราอธิษฐานเราต้องมั่นใจว่า เรามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพระเจ้า ซึ่งดูได้จากความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นว่าเป็นอย่างไร เมื่อเราให้อภัยคนอื่นพระเจ้าก็ให้อภัยเรา (มธ.6:14-15) เพราะว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งการให้อภัย ไม่ว่าความผิดบาปของเราจะมากมายสักเพียงใด พระองค์ก็สามารถยกให้กับเราจนหมดสิ้น พระองค์จะชำระเราให้สะอาด (อสย.1:18) เราต้องรักษาชีวิตของเราให้ไกลจากบาปอยู่ตลอดเวลา ต้องสารภาพบาปอยู่เสมอๆ
5 อธิษฐานขอการปกป้อง (v13)
พระเยซูสอนว่า เวลาเราอธิษฐานให้ขอพระเจ้าปกป้องให้เราพ้นจากการทดลองและสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง เนื่องจากศัตรูของเรา คือผีมารซาตาน เรามองไม่เห็น และมันมีกลยุทธ์มากมายที่จะนำมาล่อลวงเราให้หลง เราไม่สามารถต่อสู้กับผีมารซาตานได้ด้วยกำลัง หรือศาสตราวุธฝ่ายโลกได้ เราจะต้องพึ่งพาในฤทธิ์เดชของพระเจ้า แม้ดูเหมือนว่าบางครั้งเราเข้มแข็ง เราเติบโต แต่ความจริงแล้วเรายังอ่อนแออยู่ พระเยซูเตือนเราว่า ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน” เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนอยู่ (มธ.26:41) เราต้องเฝ้าอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าให้เรามีชัยชนะเหนือการทดลอง มีชัยชนะเหนือผีมารซาตาน มีชัยชนะเหนือความบาป ปกป้องเราให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง
ทั้ง 5 ประการนี้เป็นตัวอย่างคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ ที่สอนเราให้เข้าใจการอธิษฐานที่ถูกต้อง เพื่อเราจะสามารถดำเนินชีวิตในโลกนี้ให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ไม่ว่าเราทำสิ่งใดสิ่งนั้นถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพื่อเราจะได้เป็นเหมือนตะเกียงที่ตั้งอยู่บนเชิงตะเกียงและส่องสว่างให้กับคนทั้งหลาย ตามน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ทรงเรียกเราทั้งหลายให้มาเป็นสาวกของพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น