09 มีนาคม 2554

สู่ความบริบูรณ์ในพระคริสต์


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2011

พระธรรม โคโลสี 2:8-15

อ.เปาโลได้เตือนพี่น้องที่โคโลสีไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของหลักปรัชญาและคำล่อลวงอันเหลวไหลตามตำนานของมนุษย์ และตามวิญญาณต่างๆของสากลจักวาล เพราะว่าในเวลานั้นเริ่มมีหลักปรัชญาต่างๆของมนุษย์เข้ามาในคริสตจักร อ.เปาโลหนุนใจให้ดำเนินชีวิตใกล้ชิดพระเจ้าให้มากที่สุด เพื่อนำชีวิตของเราเข้าสู่ความบริบูรณ์ในพระคริสต์ เราจะมาดูด้วยกันว่า เราจะเข้าสู่ความบริบูรณ์ในพระคริสต์ได้อย่างไรบ้าง 3 ประการ

1. หนีจากสิ่งแปลกปลอม (คส.2:8)
อ.เปาโลบอกว่าจงระวังให้ดี ซึ่งเป็นการย้ำต่อเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ว่าอย่าให้ใครมาวางรากอื่นให้อีกนอกจากรากของพระคริสต์ที่ได้วางไว้ให้แล้ว พระเยซูเป็นทางเดียวที่นำเราไปสู่ความรอด (ยน.14:6) พระเยซูเป็นแหล่งแห่งความจริงทั้งมวล สิ่งแปลกปลอมที่ อ.เปาโล กล่าวถึงคืออะไร
1.1 ปรัชญาของโลก (คส.2:8) คือสิ่งที่มาจากประมวลความคิดของมนุษย์ รวมทั้งมาจากค่านิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่หล่อหลอมมาจากการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และมาชักชวนเราให้หลง (คส.2:18) ซึ่งดูเหมือนดี (คส.2:23) แต่ทำให้คนหลงไปจากทางของพระเจ้า (อฟ.4:14) เราจึงต้องระวัง ดังนั้นเองปรัชญาของโลกเราต้องหนีให้ไกล
1.2 การล่อลวง (คส.2:8) นอกจากปรัชญาของโลกแล้วการล่อลวงก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องหนีให้ไกล ปรัชญาเกิดจากการสำคัญผิด แต่การล่อลวงเป็นความตั้งใจ คือตั้งใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด (อฟ.4:14) วิธีที่เราจะหนีพ้นจากการล่อลวงทางความคิดได้ คือการน้อมนำความคิดมาอยู่ใต้พระวจนะ (ยก.1:22) (2คร.10:4-5) การล่อลวงมาจาก 2 แหล่ง คือ มาจากมนุษย์ และมาจากมารซาตาน ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต 
ดังนั้นเราจะต้องหนีจากสิ่งแปลกปลอมด้วยการพึ่งพาพระคุณของพระเจ้า

2. ตายต่อตัวเอง (คส.2:9-12)
การตายต่อตัวเอง คือการยอมจำนนต่อพระเจ้า เป็นเหมือนพระเยซู มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (ยน.10:30, 38) พระเยซูเป็นแหล่งแห่งความบริบูรณ์ พระองค์มาเพื่อให้ความบริบูรณ์กับเรา (ยน.10:10) (อฟ.4:13) ชีวิตที่ยอมตายต่อตัวเองคือชีวิตที่ยอมจำนนต่อพระเจ้า จะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ประการ คือ
2.1 ให้พระเยซูเข้ามาครอบครอง (คส.2:10) ชีวิตของเราอยู่ภายใต้ร่มพระคุณของพระเจ้า เราได้รับสิทธิแห่งการครอบครองร่วมกับพระองค์ (อฟ.1:20-22) เราก็มีสิทธิอำนาจเหนือสิ่งเหล่านั้นด้วย
2.2 ได้เข้าร่วมในการตาย (คส.2:11) คือร่วมในการตายของพระเยซูคริสต์ที่กางเขน เราได้เข้าสุหนัตที่มือมนุษย์ไม่ได้กระทำ เป็นการเข้าสุหนัตที่จิตใจ โดยความเชื่อ (รม.2:28-29) และถูกฝังไว้กับพระองค์ (รม.6:3-4) อ.เปาโลบอกว่าท่านเองได้ถูกตรึงไว้แล้ว (กท.2:20) เราได้เข้าส่วนในการตายร่วมกับพระองค์
2.3 ได้เข้าร่วมในการเป็น (คส.2:12) คือร่วมในการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ พระเยซูเป็นบุตรหัวปีแห่งการคืนพระชนม์ ในที่สุดเราทุกคนต้องมายืนต่อหน้าบัลลังค์ของพระเจ้า (1ธส.4:13-16) การตายเป็นเพียงการหลับ เมื่อหลับจึงมีการตื่น เมื่อตื่นได้นั่นก็แสดงว่าเรายังมีชีวิตอยู่

3. ยำเกรงพระเจ้า (คส.2:13-15)
คนที่เข้าสูความบริบูรณ์ของพระคริสต์ได้จะต้องเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้า สาเหตุที่ยำเกรงพระเจ้าเพราะ
3.1 ได้รับการยกโทษบาป (คส.2:13) เมื่อทุกคนเป็นคนบาป จะต้องถูกพิพากษาลงโทษ แต่เพราะคุณความรักของพระเจ้าทำให้เราได้รับการยกโทษบาป (ลก.7:42-43) เราได้รับสิทธิพิเศษนี้โดยพระเยซูคริสต์ ทำให้เรายำเกรงพระเจ้ามาย เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรามาก
3.2 ทำให้เราหลุดพ้นจากคำสาปแช่ง (คส.2:14) พระองค์ได้ฉีกกรมธรรม์ซึ่งได้ผูกมัดเราด้วยบัญญัติต่างๆ พระเจ้าอยู่ที่ไหนเสรีภาพก็อยู่ที่นั่น (2คร.3:17-18) เราหลุดพ้นจากคำสาปแช่งเมื่อเรามาเชื่อวางใจในพระเจ้า พระพรจึงเป็นของเรา
3.3 มีชัยชนะเหนือผีวิญญาณชั่ว (คส.2:15) พระเยซูทรงปลดเทพผู้ครองและศักดิเทพเสีย ใครก็ตามที่เชื่อวางใจในพระองค์และรับพระองค์เข้ามาในชีวิตเค้าก็จะมีชัยชนะร่วมกับพระองค์ (วว.19:20) พระองค์ชนะมารร้าย (วว.12:11) เราจึงมีชัยชนะร่วมกับพระเยซูด้วย เราต้องยำเกรงพระเจ้าด้วย
คนที่จะเข้าสู่ความบริบูรณ์ของพระคริสต์ได้จะต้องเป็นคนที่หนีจากสิ่งแปลกปลอม ต้องยอมตายต่อตัวเอง และต้องดำเนินชีวิตด้วยการยำเกรงพระเจ้า และเราจะพบความบริบูรณ์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น