สรปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 17
มิถุนายน 2012
พระธรรม มัทธิว 12:38-45
พวกฟาริสีและธรรมาจารย์พยายามจับผิดพระเยซูเพื่อที่หาช่องทางกำจัดพระเยซูมาตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาวกเด็ดรวงข้าวกินในวันสะบาโต
หรือการรักษาโรคของพระเยซูในวันสะบาโต
จนมาถึงการกล่าวหาว่าพระเยซูขับผีออกโดยฤทธิ์ของนายผี พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ใช้วิธีการที่รุนแรงมาตลอดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการใหม่ ที่ดูเหมือนว่าเป็นการกลับใจแล้ว คือ
มาทำทีขอให้พระเยซูสำแดงหมายสำคัญการอัศจรรย์
เพื่อจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเยซู แต่พระเยซูรู้ถึงท่าทีภายในใจของคนพวกนี้เป็นอย่างดี
จึงไม่ได้สำแดงหมายสำคัญใดให้กับคนพวกนี้ เพียงแต่ยกตัวอย่างหมายสำคัญในท้องปลา 3 วันของโยนาห์ และเรื่องราชินีจากทิศใต้ให้ฟังเท่านั้นยังไม่พอ
พระเยซูยังต่อว่าคนพวกนั้นว่า เป็นคนชาติชั่วและคิดคดทรยศต่อพระเจ้าอีกด้วย
ทำไมคนพวกนี้มาขอหมายสำคัญแล้วจึงไม่ได้ เพราะอะไร มีเหตุผล 3 ประการ คือ
1. เพราะมีใจอธรรม (มธ.12:39-40,
45)
พระเยซูเรียกคนเหล่านี้ว่า
“คนชาติชั่ว” ซึ่งหมายถึงคนชั่วร้าย คิดคดทรยศต่อพระเจ้า เป็นคนล่วงประเวณี
คนไม่สัตย์ซื่อ ไม่ซื่อตรงต่อพระเจ้า เปรียบเสมือนเจ้าสาวไม่ซื่อตรงต่อเจ้าบ่าว คนเหล่านี้ไม่ได้กลับใจ
ไม่ได้ต้องการอยากจะเห็นหมายสำคัญจริงๆ แต่ต้องการหาหลักฐานมัดพระเยซู
จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยการโกหกหลอกลวง คนแบบนี้ไม่มีโอกาสได้เห็นพระเจ้า
หรือหมายสำคัญจากพระเจ้า คนที่ชอบธรรมเท่านั้นที่จะได้เห็น เพราะเขามีใจบริสุทธิ์
(มธ.5:8)
พระองค์จะไม่ฟังคำขอใดๆ จากคนที่สะสมความบาปเอาไว้ในชีวิต (สดด.66:18) คนที่จะเข้าหาพระเจ้าได้ ต้องเป็นคนที่มีชีวิตที่ปราศจากบาป และเขาจะได้รับพระพร
(สดด.24:3-5) หนทางเดียวที่คนเหล่านั้นจะพบพระเจ้าได้
จะได้เห็นหมายสำคัญ คือเขาต้องกลับใจใหม่ ดังนั้นเราอย่าแช่อยู่ในความบาป
จงออกมาจากบาป ละทิ้งบาป เราต้องกลับใจใหม่อยู่เสมอ
มิฉะนั้นคำอธิษฐานของเราจะไร้ผล พระเจ้าจะไม่ฟังเรา
2. เพราะขาดใจที่แสวงหาอย่างแท้จริง
(มธ.12:41-42)
ไม่เพียงแต่มีใจอธรรมแล้วยังไม่ได้แสวงหาพระเจ้าอย่างจริงใจ
กลับมาจ้องจับผิดพระเยซูอีก แสวงหาแต่โอกาสที่จะทำชั่ว แสวงหาโอกาสที่จะทำความผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
แม้ว่าจะมีการเตือนจากคนต่างๆ แม้จะเห็นการอัศจรรย์มากมายที่พระเยซูทำ ก็ยังไม่กลับใจ
พระเยซูได้ยกตัวอย่างของโยนาห์ ให้เห็นว่า เมื่อโยนาห์ประกาศกับชาวนีนะเวห์
และพวกเขากลับใจและแสวงหาพระเจ้าอย่างจริงใจ พระองค์ทรงโปรดยกโทษให้
แต่คนพวกนี้ที่ไม่กลับใจว้นสุดท้ายจะต้องโดนพิพากษา
แต่คนที่กลับใจใหม่เท่านั้นที่จะรอดพ้นจากการพิพากษาได้ ไม่เพียงตัวอย่างของโยนาห์
พระเยซูได้ยกตัวอย่างของราชีนีแห่งเชบา ที่เป็นราชินีจากทางทิศใต้ ที่ยอมจ่ายราคามาหาซาโลมอน
เมื่อได้ยินถึงความมีสติปัญญาของท่าน ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ไม่ว่ายากลำบากอย่างไร ไม่ว่าจะต้องจ่ายราคามากน้อยเพียงใดก็ยินดี
คนที่มีใจแสวงหาพระเจ้าแบบนี้จะได้รับความรอด
เราต้องหมั่นแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจของเรา พระองค์จะทรงฟังของเรา (โยบ.8:5-7) อย่าทำเป็นพิธี
อย่าทำเพราะกลัว อย่าทำเพราะเห็นคนอื่นทำ แต่จงตั้งใจที่จะทำ ตั้งใจที่จะแสวงหาพระองค์
จงทำทุกสิ่งด้วยความจริงใจ แล้วพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของเรา
3.
เพราะปล่อยให้ชีวิตปราศจากพระเจ้า (มธ.12:43-45)
พระเยซูอุปมาเรื่องชายคนหนึ่งที่ผีร้ายได้ออกจากชีวิตของเขาไปแล้ว
ชีวิตของเขาเปรียบเหมือนบ้านที่ถูกทำความสะอาดเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปอยู่
ซึ่งก็เหมือนชีวิตของคนที่กลับใจใหม่แล้ว ได้รับการชำระแล้ว
แต่ยังไม่ยอมติดตามพระเจ้า ยังไม่ยอมให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิต เมื่อผีที่ออกมาจากเขา
ก็ไปตามที่ต่างๆ เพื่อจะหาที่อยู่ใหม่ แต่เมื่อหาไม่พบมันจึงกลับมาที่เดิมที่มันเคยอยู่และเห็นว่า
ที่มันเคยอยู่นั้นวางอยู่แถมเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วจึงไปตามพรรคพวกที่ร้ายกว่ามาอยู่ด้วย
ชายคนนั้นจึงตกที่นั่งลำบากกว่าเดิม ชีวิตของคนที่กลับใจใหม่แล้ว
ถ้าไม่ให้พระเยซูเข้ามาในชีวิต อีกไม่นานก็จะตกอยู่ในสภาพเดียวกับชายคนนี้
คือแยกกว่าเก่า ลำบากกว่าเดิม
ดังนั้นเราต้องให้พระเจ้าเข้ามาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในชีวิตของเรา
เราต้องเกาะพระเจ้าเอาไว้ เราต้องยึดพระเจ้าให้แน่น
หนทางของคนที่ไม่มีพระเจ้าก็จะพินาศไป (โยบ.8:11-15) อย่าปล่อยให้ชีวิตขาดจากพระเจ้า จงเต็มล้นในพระวิญญาณอยู่เสมอ
จงมีชีวิตแห่งการอธิษฐาน จงให้พระเจ้าเติมเต็มทุกวันในชีวิตของเรา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทอดทิ้งพระเจ้า อย่าวิ่งหนีพระเจ้า จงเข้ามาหาพระองค์
จงกลับใจใหม่ จงแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจ เมื่อเราขอแล้วเราก็จะได้
เมื่อเราหาแล้วเราก็จะพบ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น