15 กรกฎาคม 2554

เงื่อนไขของคำตอบ

สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2011

พระธรรม มัทธิว 7:7-12
ในมัทธิว 7:1-6 พระเยซูสอนไม่ให้เรากล่าวโทษผู้อื่น โดยได้ยกคำอุมาเรื่องไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตามาสอนเราทั้งหลาย และยังบอกต่อไปว่า ถ้าเราไม่กล่าวโทษผู้อื่นพระองค์ก็จะไม่กล่าวโทษเราด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่า เราเองก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน ในขณะที่พระองค์สอนเราในเรื่องนี้ทำให้เราเห็นถึงความสมดุลของพระเจ้า เห็นถึงความตรงไปตรงมาของพระเจ้า ในมุมหนึ่งเราเห็นพระเจ้าตั้งเงื่อนไขให้กับเราแต่เป็นเงื่อนไขที่ดีที่ช่วยเรา เมื่อเราทำตามเงื่อนไขที่พระเจ้าตั้งให้กับเรานั้นเราก็จะพบกับคำตอบที่ดีสำหรับเราด้วยเช่นกัน เรามาดูว่าเงื่อนไขของคำตอบจากพระธรรมตอนนี้มี 3 ประการคือ

1. อธิษฐานด้วยความเชื่อ (มธ.7:7-8)
การอธิษฐานเป็นการสร้างความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า ซึ่งเป็นหนทางแห่งความสำเร็จ การอธิษฐานจากพระธรรมตอนนี้ เป็นลักษณะของการกระทำที่ต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่อธิษฐานเพียงครั้งเดียวและก็จบกัน แต่เป็นการอธิษฐานจนกว่าจะได้รับคำตอบ เป็นการกระทำที่เป็นปกติในชีวิตประจำวันอย่างมีความหมาย เป็นการอธิษฐานด้วยความเชื่อ ไม่มีความสงสัยในพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด การอธิษฐานไม่ได้เป็นการแสดงความอ่อนแอ แต่เป็นการแสดงความถ่อมใจลงยอมรับการช่วยเหลือจากพระเจ้า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการอธิษฐานขอต่อพระเจ้าเป็นการแสดงความอ่อนแอ ตรงกันข้ามคนที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเป็นการแสดงออกถึงความหยิ่ง  ความจริงแล้วพระเจ้าเป็นพระบิดาของเรา ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเรา เหมือนกับพ่อแม่ของเราที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเราอยู่ตลอดเวลา เมื่อลูกร้องขอความช่วยเหลือ และจะให้สิ่งที่ดีกับลูกของตน (มธ.7:9-11)  ให้เราเชื่ออย่างไม่สงสัย ถ้าเราอธิษฐานด้วยความเชื่อเราก็จะได้ (มธ.21:21-22)  (ยก.1:6-7) จงอย่าสงสัยในพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของเรา ความจริงแล้วพระเจ้าทรงรู้ถึงความต้องการของเราและได้เตรียมสิ่งที่เราจะขอเอาไว้ให้กับเราก่อนหน้าที่เราขอเสียอีก

2. แสวงหาด้วยความเชื่อ (มธ.7:7-8)
พระวจนะของพระเจ้าบอกต่อไปอีกว่าให้เราหาแล้วเราจะพบ การหาในที่นี้เป็นอาการที่แสดงออกมาของท่าทีที่อยู่ภายใน เป็นอาการของคนที่มีความต้องการอย่างมาก จึงต้องออกไปแสวงหาสิ่งที่ตนเองต้องการ ท่องเที่ยวไปสำรวจ หรือค้นหาสิ่งที่ตนเองต้องการ ท่าทีของเราต้องแสวงหาด้วยความเชื่อและไม่สงสัย เพราะว่าความสงสัยเป็นอุปสรรคของความสำเร็จ คนที่ไม่แสวงหาสิ่งที่ตนเองมีความปรารถนาก็แสดงว่าเป็นคนเกียจคร้าน ซึ่งคนเกียจคร้านมือของเขาก็ปฏิเสธการทำงาน (สภษ.21:25) แต่คนขยันจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ (สภษ.13:4) เราต้องแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า เพื่อเราจะรู้ว่าพระองค์มีน้ำพระทัยอย่างไรต่อสิ่งที่เราทูลขอ และเมื่อคำอธิษฐานของเราสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้าแล้วเรามั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราทูลขอนั้นเราจะได้ (ยน.5:14) การแสวงหายังเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรากำลังค้นหาหรือรอคอยอยู่ พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาพร้อมกับความปรารถนา ให้มีความต้องการไฝ่รู้ มนุษย์จึงเป็นนักค้นคว้า เป็นนักสำรวจ เราจึงพบกว่ามนุษย์ค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เราจึงต้องเป็นนักแสวงหา โดยเฉพาะแสวงหาพระเจ้า เหมือนกวางน้อยที่แสวงหาลำธารน้ำ (สดด.42:1-2) ดังนั้นจงแสวงหาพระเจ้าด้วยความเชื่อ

3. ลงมือกระทำด้วยความเชื่อ (มธ.7:7-8)
ไม่เพียงแต่อธิษฐานด้วยความเชื่อ และแสวงหาด้วยความเชื่อแล้ว พระวจนะของพระเจ้ายังบอกอีกว่า จงเคาะแล้วจะเปิดให้ ซึ่งเป็นการเคาะอย่างต่อเนื่อง หรือเคาะจนกว่าจะได้ยิน เคาะด้วยความอดทน เป็นการลงมือกระทำเพื่อให้ได้มาของสิ่งที่ตนเองต้องการ แม้ว่าบางครั้งจะต้องรอด้วยความอดทนก็ยังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำๆ หยุดๆ หรือเดี๋ยวทำ เดี๋ยวหยุด แต่ทำจนกว่าจะสำเร็จ  พระเยซูได้ยกตัวอย่างของเพื่อนที่ไปเคาะประตูบ้านของเพื่อนเพื่อขอขนมปังในตอนดึก เคาะจนเพื่อนต้องลุกขึ้นมาหยิบขนมปังให้ (ลก.11:5-8)  บางคนพระเจ้ายืนเคาะอยู่ที่ประตูใจของเราอยู่นานกว่าจะเปิดให้กับพระเจ้าเขามา บางคนพระเจ้าเคาะอยู่หลายปี  (วว.3:20) ให้เราไวต่อเสียงเรียกของพระเจ้า  ไม่เพียงเท่านั้นพระเจ้ายังสอนเราต่อไปอีกว่า ถ้าเราต้องการจะให้ผู้อื่นทำอย่างไรกับเรา เราก็ต้องทำอย่างนั้นกับเขาก่อน (มธ.7:12) ถ้าเราต้องการให้เขารักเรา เราก็ต้องรักเขาก่อน  อย่างให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้วเราจะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร (กท.6:9-10) ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตามแม้กับคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของเราก็ตาม (ลก.6:35) เพราะการกระทำเช่นนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า หรือแม้กับคนที่เราไม่รู้จักก็ตาม (ฮบ.13:2)
จงอธิษฐานด้วยความเชื่ออย่าสงสัยในพระเจ้า จงแสวงหาด้วยท่าทีที่ถูกต้อง จงกระทำอย่างต่อเนื่องไม่เสร็จไม่ควรท้อใจ และเมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วเราจะเห็นความสำเร็จที่เราปรารถนาเกิดขึ้น (ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.churchofpeace2010.org)

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น