สรุปคำเทศนา อาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2012
ข้อพระคัมภีร์ สดุดี 90:12
อ.งามพันธ์ พิมพ์พรรณ์
สดุดี 90 เป็นคำอธิษฐานของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า
หลังจากที่โมเสสได้นำชนชาติอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์จำนวนกว่า 2 ล้านคน และวนเวียนในถิ่นทุรกันดาร
ประมาณ 40 ปี
คนที่ออกมาจากประเทศอียิปต์นั้น
ส่วนใหญ่ได้เสียชีวิตและคนรุ่นใหม่กำลังเดินทางไปสู่แผ่นดินคานา ในคำอธิษฐานของโมเสสได้สรรเสริญพระเจ้าองค์พระผู้สร้างผู้ทรงสภาวะนิรันดร์
“พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล”
และท่านได้เปรียบเทียบชีวิตของมนุษย์ที่เป็นอนิจจัง ชีวิตของมนุษย์ที่เป็นเหมือน “ความฝัน” เป็นเหมือน “หญ้า” เป็นเหมือน “เสียงถอนหายใจ” อิสยาห์ 40.6-8 ก็ได้กล่าวสอดคล้องกันว่า “...เพราะว่าบรรดาเนื้อหนังก็เป็นเสมือนต้นหญ้า
และ บรรดาศักดิ์ศรีของเขาก็เป็นเสมือนดอกหญ้า ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้งไป
และดอกก็ร่วงโรยไป ” เพราะโลกนี้ไม่มีบ้านอันถาวรของมนุษย์ แต่พระเจ้าทรงรักพวกเขาเช่นเดียวกับบิดาที่มีความรักและเอ็นดูบุตร
ฉธบ
1:31 สิ่งที่อิสราเอลต้องทำในช่วงเริ่มต้นปีใหม่คือการมองย้อนกลับไปดูในอดีต
ระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงช่วยเหลือพวกเขาอย่างอัศจรรย์ และทรงเลี้ยงดูพวกเขาตลอดเวลาในถิ่นทุรกันดาร พวกเขากลายเป็นประชาชาติที่มีจำนวนมหาศาลดุจดังดวงดาวในท้องฟ้า
ตามพระสัญญาของพระเจ้า “นับวัน” เพื่อให้รู้ตัวว่าเวลาบนโลกนี้มันสั้นจะได้คอยเตือนตัวเอง ให้รู้คุณค่าของเวลาและไม่หลงเพลินไปกับระบบของโลก
เราจึงควรตอบสนองอย่างมีปัญญาด้วยการนับวันคืนชีวิตของเรา และใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่าที่สุด
เราจะมีหลักการจัดแผนการชีวิตพิชิตปี 2013 เพื่อเรียนรู้คุณค่าของเวลาอย่างมีปัญญาตามที่พระเจ้าปรารถนาได้อย่างไร
ขอนำหลักการจากพระวจนะพระเจ้ามาใช้ 4 ประการคือ
หลักการที่ 1 มีนิมิต สภษ 29:18 นิมิต” หมายถึง ความฝัน หรือภาพที่เกิดขึ้นในสมองและอยากจะเห็น
และจะทำให้สำเร็จ นิมิตเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยหรือสำแดง
ชีวิตที่ปราศจากพระเจ้านั้นว่างเปล่า ไร้ความหมาย ไร้เป้าหมายเมื่อพระเจ้าได้ทรงเลือกและทรงเรียกเรามาแล้ว พระองค์ทรงประสงค์ให้เราดำเนินชีวิตที่มีนิมิต
มีเป้าหมาย
และเป็นนิมิตที่มีคุณค่า ฉะนั้น
ชนชาติที่ไม่มีนิมิตที่ไม่ได้เชื่อพระเจ้า ก็ไร้ความหวัง
เราจึงควรดำเนินชีวิตด้วยนิมิต และควรทำให้คนอื่นมีนิมิตด้วย ความเชื่อจะทำให้เราได้เข้าส่วนกับนิมิตของพระเจ้า กจ 20:24 หลังจากที่
อ.เปาโล กลับใจมาเชื่อพระเจ้า เขาได้ถวายชีวิตที่เหลืออยู่ มีนิมิต มีเป้าหมายใหม่เพื่อพระคริสต์ มธ 28:19-20
คือสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้กำชับมาถึงเราทุกคนที่เป็นคริสเตียน ทุกชาติ
ทุกภาษา
ทุกสถานภาพของชีวิตในโลกนี้
ท่านต้องมีนิมิตเพื่อข่าวประเสริฐด้วย เราต้องมีนิมิตเดียวกับพระเยซูคริสต์
2คร 5:9, 1คร15:58 เมื่อเรามาเชื่อพระเจ้าเราได้รับชีวิตใหม่เราไม่ได้ถูกเรียกว่า
“คนบาป” อีกต่อไป แต่ทรงเรียกเราว่าเป็น “บุตร” ของพระเจ้า เราตั้งเป้า (นิมิต)
ของเราในปีข้างหน้าที่จะมาถึงอย่างไร
เราอยากรับใช้อะไรบ้างในคริสตจักร
การนำวิญญาณ
การเป็นพี่เลี้ยง
การอภิบาลดูแลคน การเทศนา การสอน
มีส่วนในการเป็นนักร้อง
เล่นดนตรี นำนมัสการ เดินถุงถวาย
อธิษฐาน ฯลฯ (ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเป็นผู้ใส่นิมิตลงในหัวใจของท่าน)
หลักการที่ 2 มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง
(ยก
4:13-15) head ความคิด heart จิตใจ hand การกระทำ มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางให้เราทูลทุกสิ่งต่อพระเจ้า (รม14:12)เราคิดอะไรไว้เยอะแยะมากมาย แต่เราต้องให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในสิ่งที่เราทำและคิดเราต้องอธิษฐานให้พระเจ้ารับรอง งานทุกอย่างเป็นงานรับใช้พระเจ้า งานในคริสตจักร งานในบ้าน
หรือในที่ทำงาน
เราจะทำอย่างสัตย์ซื่อเพราะเป็นการรับใช้พระเจ้าทั้งนั้น (อฟ 6: 5-6)
ให้พระเจ้านำหน้าเรา
ขอให้เรายอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเรา
แล้วพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเราราบรื่น สภษ 3:5-6 ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
และเป็นชีวิตที่คิดถึงผู้อื่นก่อน เราต้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิตให้ถูกต้อง มธ
6:33
หลักการที่ 3 พึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์
(ยน 15:26-27) พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยเหลือ...ทรงเป็นที่ปรึกษา ...หนุนใจ..และเสริมกำลังพระวิญญาณจะทรงสอน
ให้ความกระจ่างแก่เราให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำหน้าเราในทุกก้าว กจ 20:22-23
เราต้องพร้อมที่จะเคลื่อนไปตามการทรงนำเหมือน อ. เปาโล การปรึกษากับพระวิญญาณบริสุทธิ์เราสามารถเข้าใจได้อย่างง่าย
ๆ สดด119:24,สดุดี
119:1-3 เราต้องอ่านพระวจนะอย่างใคร่ครวญ
อ่านเป็นประจำ อธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ
พระเจ้า+เรา+ความเชื่อ = ทุกสิ่งเป็นไปได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมเสมอที่จะที่จะพูดคุยกับท่านให้คำปรึกษา สอน
เพื่ออนาคตและความหวังใจแก่เรา สดด 32:8 พระวิญญาณบริสุทธิ์ปรารถนาให้เราทุกคนเข้ามาหาพระองค์ทรงมีพลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้เชื่อทุกคนได้ ทรงจัดเตรียมสิ่งดีมากมายสำหรับเรา
1คร2.9
เราต้องพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการนำชีวิตของเราในทุก
ๆ วัน ถ้าเราดำเนินตามเนื้อหนัง
เนื้อหนังนำเราไปสู่ความตาย แต่พระวิญญาณนำเราไปสู่ชีวิต
หลักการที่ 4 คาดหวังความสำเร็จ (ชัยชนะ) ยน 16:33
พระเยซูได้ประกาศให้โลกได้รู้ว่า
งานของพระองค์สำเร็จแล้วที่ไม้กางเขน ทรงมีชัยชนะเหนือความบาปและความตาย เหล็กในแห่งความตายพ่ายแพ้แล้ว ทรงฟื้นคืนพระชนม์ เราจึงมีชีวิตใหม่ คริสเตียนคือผู้ที่อยู่ฝ่ายผู้มีชัยชนะ เรียนรู้ที่จะรับฤทธิ์เดชจากพระเจ้า เพื่อจะมีกำลังในการต่อสู้กับเนื้อหนัง
ความบาป การถูกล่อลวงทางความคิด ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตฝ่ายวิญญาณไม่ใช่ชีวิตฝ่ายเนื้อหนัง และอยู่ภายใต้การทรงนำของพระวิญญาณ ตัวอย่าง ดาวิดถูกไล่ล่าจากศัตรู
และคาดหวังถึงการช่วยกู้จากพระเจ้า ท่านตระหนักว่าทุกชัยชนะมาจากการช่วยกู้ของพระเจ้า ความรอด
ความช่วยเหลือ สวัสดิภาพ ความรุ่งเรือง
สุขภาพและชัยชนะ ฯลฯ วันนี้ท่านคาดหวัง ชัยชนะ
ความสำเร็จในการเดินติดตามพระเจ้า หรือไม่
พระองค์ได้ทรงเตรียมพระพรนานาประการให้กับท่านแล้ว โดยความเชื่อและการดำเนินชีวิตตามพระวจนะ จะสำแดงเป็นประสบการณ์จริงในโลกที่ท่านอาศัยอยู่ พระพรจะเปลี่ยนชีวิตที่พ่ายแพ้ให้มีชัยชนะ
เปลี่ยนชีวิตที่หมดหวังให้มีความหวังอยู่เสมอ เปลี่ยนชีวิตที่เจ็บป่วยให้มีสุขภาพดี
เปลี่ยนชีวิตที่ขัดสนให้มีพอเพียงและเกินพอที่จะทำสิ่งดี ๆ
เพื่อแผ่นดินของพระเจ้า ขอให้ท่านมีความชื่นชมยินดีรับพระพร มีชัยชนะและมีชีวิตฉายแสงแห่งพระสิริเป็นคำพยานที่ดีสำหรับแผ่นดินของพระเจ้า ตลอดปี 2013 นี้ ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น