11 ตุลาคม 2554

ถวายความสำเร็จ

สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2011

พระธรรม เนหะมีย์ 12:27-47
หลังจากที่เนหะมีย์ได้สร้างกำแพงเยรูซาเล็มสำเร็จอย่างงดงามภายในระยะเวลาอันสั้นเพียง 52 วัน ซึ่งความสำเร็จนี้เนหะมีย์รู้เป็นอย่างดีว่า พระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคนอีกมากมายที่มีส่วนในความสำเร็จนี้ ทั้งกลุ่มของผู้นำ กลุ่มของอาสาสมัครและประชาชนทุกคนก็มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนความสำเร็จครั้งนี้ เพราะพระเจ้าผู้ทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เนหะมีย์จึงได้ถวายความสำเร็จนี้แด่พระเจ้า การถวายความสำเร็จแด่พระเจ้าครั้งนี้ มาจากท่าทีภายในจิตใจของคนอิสราเอล ที่ต้องการแสดงออกมาเป็นการกระทำ ซึ่งเราสามารถเห็นและนำมาเป็นแบบอย่างในชีวิตของเราได้ ดังนี้

1. ถวายด้วยความยินดี (นหม.12:27)
อิสราเอลมีความเปรมปรีย์เป็นอย่างยิ่งที่เห็นการทรงสถิตของพระเจ้าตลอดเวลาที่ทำการสร้างกำแพงเยรูซาเล็ม เราสามารถเห็นได้ว่า พระเจ้าทรงกระทำให้เขาเปรมปรีย์ด้วยความชื่นบาน (นหม.12:43) ความยินดีของเขาได้ยินไปไกลมาก นั่นแสดงว่าเป็นความยินดีของทุกคน เป็นความยินดีที่เต็มเปี่ยมในหัวใจและชีวิตของคนอิสราเอล เพราะพวกเขาตระหนักว่าพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลัง ชีวิตของเราก็เช่นกันเรามีพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเรา  เราจึงมาถวายความสำเร็จในชีวิตของเราด้วยความชื่นชมยินดี ในทุกวันอาทิตย์ที่เราไปคริสตจักร เราไปนมัสการพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี 

2.  ถวายดัวยใจขอบพระคุณ (นหม.12:27)
คนอิสราเอลถวายความสำเร็จด้วยใจขอบพระคุณพระเจ้า เพราะเราทราบแล้วว่าพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในชีวิตของเรา คนอิสราเอลขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทรงให้การช่วยเหลือตลอดระยะเวลาในการสร้างกำแพงเยรูซาเล็มที่ถูกทำลายไป และสำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 52 วัน เมื่อเราศึกษาพระธรรมเนหะมีย์เราพบว่าเนหะมีย์ประสบกับการขัดขวาง และปัญหามากมาย กว่าจะทำเสร็จ ต้องเผชิญกับการขัดขวามทั้งภายในและภายนอก แต่ก็โดยพระคุณของพระเจ้าที่มีเพียงพอสำหรับคนของพระเจ้า เมื่อพระเจ้ามีพระคุณเพียงพอกับเนหะมีย์ พระเจ้าก็มีพระคุณเพียงพอกับเราทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน คนที่มีใจขอบพระคุณคือคนที่กลับใจใหม่ (รม.1:21) (อฟ.5:20)  (ฟป.4:6) (1ธส.5:18) ดังนั้นเราควรจะตระหนักถึงพระคุณของพระเจ้าอยู่เสมอ

3. ถวายด้วยการนมัสการ (นหม.12:27, 31, 38, 42)
คนอิสราเอลถวายความสำเร็จด้วยการนมัสการพระเจ้า เพราะการนมัสการพระเจ้าเป็นการให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการงานต่างๆ ที่เราได้กระทำ ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใดๆ ให้เราเริ่มต้นด้วยการนมัสการพระเจ้า คนอิสราเอลนำเครื่องดนตรีต่างๆ ที่ตนเองมีมาใช้เพื่อการนมัสการพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นฉาบ พิณใหญ่ พิณเขาคู่ มีการแบ่งกลุ่มกันออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่เพื่อเดินนมัสการไปตามกำแพงเมือง ซึ่งเป็นการประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า มีคณะนักร้อง ที่ร้องเพลงนมัสการร่วมขบวนไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำ หรือประชาชนทุกคนต่างก็ร่วมกันนมัสการพระเจ้า  (สดด.47:6)  (สดด.40:3) ดังในเราควรสรรเสริญพระเจ้าทั้งในชีวิตส่วนตัวของเรา และร่วมกับพี่น้องคนอื่นๆ อยู่เสมอ

4. ถวายด้วยชีวิตที่บริสุทธิ์ (นหม.12:30)
บรรดาปุโรหิตและทุกคนได้ชำระตัวของตนเองให้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้เข้ามามอบถวายแด่พระเจ้า พระเจ้าต้องการให้เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์ เพราะว่าความบาปจะแยกเราออกจากพระเจ้า แต่ความบริสุทธิ์จะทำให้เราเข้าใกล้พระเจ้า เราจึงควรดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์เพื่อถวายแด่พระเจ้า พระคัมภีร์ได้บอกให้เรารู้ว่า คนที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะขึ้นไปยังบนภูเขาของพระเจ้า (สดด.24:3-6)  (ปฐก.35:2)  (อพย.19:10)  (1คร.3:16)  (อฟ.5:26)  (1ทธ.4:12)  (1ยน.1:9) ให้เรารักษาชีวิตของเราให้บริสุทธิ์และถวายแด่พระเจ้า

5. ถวายด้วยการตอบแทน (นหม.12:44-47)
เนหะมีย์ตระหนักดีว่าการสร้างกำแพงสำเร็จลงได้เพราะว่ามีพระเจ้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็จริงแต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่มีส่วนในความสำเร็จครั้งนี้ เนหะมีย์จึงได้ระลึกถึงกลุ่มคนเหล่านี้ที่มีส่วนในความสำเร็จ จึงได้มีการจัดสรรและตอบแทนให้กับคนที่มีส่วนในความสำเร็จ พระเจ้าไม่เคยเอาเปรียบใคร พระองค์จะตอบแทนให้กับทุกคนตามการกระทำของตนเสมอ เราก็ควรที่จะเป็นคนที่เห็นคุณค่าคนอื่นเช่นกัน เพราะว่าเราแต่ละคนก็เป็นกายเดียวกันของพระเยซูคริสต์ (1คร.12:12) เราจึงควรที่จะสนับสนุนกับ ช่วยเหลือกัน  (ฮบ.13:17)  (1ทธ.5:17) เราควรที่จะมองดูว่าเราสามารถที่จะตอบแทนให้ได้อย่างไร ในทางตรงกันข้ามคนที่เป็นผู้นำ หรือผู้เลี้ยงก็ไม่ควรที่จะคาดหวัง หรือทำเพื่อจะได้รับการตอบแทน
ให้เราดูว่าเรามีสิ่งใดที่จะมอบถวายแด่พระเจ้าเพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติสูงสุด จงขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี เพราะว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกสิ่งอยู่

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น