06 ธันวาคม 2555

ชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระวจนะ


สรุปคำเทศนาอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555

ฉธบ11:18 “เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงจดจำถ้อยคำเหล่านี้ของข้าพเจ้าไว้ในจิตใจของท่านทั้งหลาย จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน

                พระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติตอนนี้ โมเสสได้นำชนชาติอิสราเอลมาจนถึงชายแดนของคานาอัน พร้อมที่จะสู่  แผ่นดินแห่งพันธสัญญา หลังจากที่ต้องเดินวนเวียนในถิ่นทุรกันดารนานถึง 40 ปี เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการทบทวน        พระบัญญัติของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง  ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะเข้าสู่แผ่นดินที่มีน้ำผึ้งและน้ำนม ยกเว้นโมเสสที่จะไม่ได้เข้าแผ่นดินคานาอันพร้อมกับพวกเขา ดังนั้น ในตอนนี้เปรียบเสมือนคำสั่งเสียและคำกำชับของโมเสสที่ได้กล่าวต่อ     ชนชาติอิสราเอล ให้พวกเขารักษาและถือบัญญัติที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่พวกเขา ด้วยถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากใจ เป็นคำพูดและคำเทศนาที่แฝงด้วยความรักความห่วงใย คำถามก็คือว่า เราเองจะมีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระวจนะได้อย่างไร จากพระวจนะตอนนี้ทำให้เรารู้ถึงหลักการที่โมเสสได้ให้แก่ชนอิสราเอล ที่พวกเขาจะดำเนินชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระวจนะอย่างน้อย 3 ประการ คือ

           1. จะต้องฝังความคิดของเราที่พระวจนะของพระเจ้า  
       หว่างคิ้วเป็นภาพของความคิด และสมอง ในบริบทการแต่งกายของคนยิวนั้น จะมีเสื้อที่ใส่ชั้นในสุด (ทูนิค) เป็นผ้าฝ้ายหรือลินิน และจะมีเสื้อคลุมคล้ายเสื้อโค๊ทที่คนตะวันตกนิยมใส่ และพวกเขาจะใส่หมวกด้วย ซึ่งพวกเขาก็จะนำข้อพระธรรมของพระเจ้าจดและม้วนเหน็บไว้ตามหมวกและข้อมือ  คนยิวจะ คาดกลักไว้ที่หน้าผาก และในกลักนั้นจะบรรจุข้อความพระคัมภีร์ไว้เสมอ ซึ่งพวกเขาตีความตามตัวอักษร แต่แท้จริงแล้วพระเจ้าประสงค์ให้พวกเขาใคร่ครวญและระลึกถึงพระคำของพระองค์อย่างสม่ำเสมอมากกว่า
                พระเจ้าได้เน้นในเรื่องนี้เป็นอย่างมากแก่โยชูวา ยชว 1:8 อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากใจของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน... เพื่อเขาจะไม่พลาดจากน้ำพระทัยของพระเจ้า  เราต้องสำรวจว่าเราให้ความสำคัญในการสะสมใคร่ครวญและศึกษาพระคำพระเจ้า มากน้อยแค่ไหน อย่างไร  พระเจ้าปรารถนาให้เราหยั่งรากลึกบนพื้นฐานแห่งความจริง เมื่อเราก้าวมาสู่ชีวิต คริสเตียนที่อยู่บนพื้นฐานแห่งพระคุณ  เราก็จะเห็นพลังที่เกิดขึ้นในการดำเนินชีวิต  มีคริสเตียนจำนวนมากที่รู้สึกเศร้า หดหู่  และรู้สึกเหนื่อย หมดแรง  พระเจ้าไม่ต้องการให้เรามีชีวิตแบบนั้น  พระเจ้าต้องการให้เรามีแต่ความชื่นชมยินดี  มีพระพรอย่างเต็มเปี่ยม  ไปด้วยชัยชนะ  เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา  มีสันติสุข  มีการทรงสถิตของพระเจ้า  พระคัมภีร์ได้บอกถึงฤทธิ์อำนาจ ของพระคำพระเจ้า ดังนี้ว่า
ฮบ 4:12 เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจได้ด้วย อฟ 6:17...และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า
พระวจนะของพระเจ้า  ที่มีฤทธิ์อำนาจเข้าไปสู่จิตใจ และจิตวิญญาณเราได้  ถ้าเราเปิดใจออก เมื่อเราน้อมรับพระคำ  จะเกิดการสัมผัสในจิตใจ พระคำมีฤทธิ์อำนาจ  ทำลายอำนาจมืด  นำการเยียวยารักษา  สร้างความหวังใจ  และนำคนให้รู้จักพระเจ้า   ปลดปล่อยเราให้เป็นไท   มีเสรีภาพ  นำมาซึ่งสันติสุข  ความชื่นชมยินดี   ฯลฯ (ยก1:5)  ถ้าเราขาดความเข้าใจให้เราทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า และในทางกลับกันพระคัมภีร์เองก็ได้ให้ผลของการละเลยการศึกษา ใคร่ครวญพระวจนะไว้  (ฮชย 4:6) ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้...” 
จงเป็นลูกของพระเจ้า ผู้รับใช้พระเจ้า ที่มีพระวจนะฝังอยู่ในความคิดเสมอ อย่าละเลยการศึกษาใคร่ครวญพระวจนะของพระเจ้าในชีวิตของท่าน  คริสตจักรจึงเห็นความสำคัญของการสอนพระวจนะในชั้นพระวจนะเพื่อชีวิต  เพื่อสมาชิกจะเข้าใจและดำเนินชีวิตตามหลักการแห่งพระวจะ  เป็นการวางรากฐานชีวิตอย่างเป็นระบบและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้

2.ให้หัวใจของเราประกอบด้วยพระวจนะ 
             โมเสสผู้กล่าวพระธรรมตอนนี้รู้ดีกว่า ชนชาติอิสราเอลเป็นชนชาติที่มักจะกบฎและหันเหไปจากพระเจ้า โมเสสจึงเน้นย้ำให้จิตใจของเขาทั้งหลายประกอบด้วยพระคำพระเจ้า เพื่อที่จะยับยั้งจิตใจของเขาไม่ให้หลงไปจากทางของพระองค์ (ยรม 31:33) ...เราจะบรรจุพระธรรมไว้ในเขาทั้งหลาย.. และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขาทั้งหลาย.. จิตใจ เป็นเรื่องที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของความคิดมนุษย์และละเอียดอ่อนที่จะถูกชักจูงไปได้ พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ดังนี้  (ยรม 17:9, 2 คร.11:3)
            เราเพียงแต่เรียนรู้และรับข้อมูลที่หัวสมองหรือความคิดของเราโดยไม่นำลงไปที่ใจของเราด้วยนั้น ไม่เพียงพอ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะเป็นคนที่ไร้ความเมตตา และไร้ความรู้สึก เช่น ฟาริสี ที่พวกเขานั้นเป็นคนที่เชี่ยวชาญในบทบัญญัติอย่างมาก และเคร่งตามตัวบทกฎหมาย แต่พระเยซูทรงประนามพวกเขาอย่างรุนแรง ว่าพวกเขาขาดความเข้าใจและความเมตตาที่จะรักผู้ที่อ่อนแอกว่า  1 คร 8:1ความรู้ทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเรื่องของจิตใจ พระเจ้าทรงใส่พระทัยจิตใจของมนุษย์ มากกว่าเครื่องบูชาทั้งหลาย เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่สำคัญของการให้พระวจนะของพระเจ้าถูกจารึกไว้ในหัวใจของเรานั้น คือ  เราต้องมีความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างแนบแน่นเสียก่อนโดยใช้เวลากับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ (สภษ 9:10) เหล่านี้ไม่ใช่โดยกำลังของเราเองที่พยายามกระทำเพื่อที่จะให้จิตใจของเราเต็มไปด้วยพระวจนะ แต่โดยการพึ่งพระคุณของพระเยซูคริสต์  ที่ให้พระวิญญาณของพระเจ้าประทานและเติมเต็มหัวใจให้เต็มเปี่ยมด้วยพระคำของพระองค์แก่เรา เราไม่ได้เป็นผู้ชอบธรรมด้วยตัวของเราเอง  คำว่า บรรจุ แสดงให้เห็นว่า พระองค์เป็นผู้กระทำแก่เรา  สิ่งเดียวที่เราทำก็คือ ยอมจำนนต่อพระเจ้าอย่างหมดหัวใจ อย่าให้ใจเราแข็งกระด้าง แต่ขอพระเจ้าเปลี่ยนใจหินของเราเป็นใจเนื้อที่พระเจ้าจะทำการภายในเราได้

         3. ต้องประพฤติตนให้สอดคล้องกับพระวจนะ
 ยก1:22 แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนที่ประพฤติตามพระวจนะนั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงผู้ฟังเท่านั้น ซึ่งเป็นการลวงตนเอง”  คริสเตียน หรือผู้เชื่อ ได้รับพระวจนะของพระเจ้าทุก ๆ วัน และ ทุก ๆ วันอาทิตย์ ขอให้เราตอบสนองในสิ่งที่เราได้เรียนรู้   พันไว้ที่มือ  เป็นคำที่กำลังให้เราเข้าใจถึง การกระทำที่เป็นการสอดคล้องกับพระวจนะของ   พระเจ้าที่ได้สะสมไว้ในความคิด และจิตใจและได้สำแดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับพระคำของพระเจ้า (มธ12:33)  พระเยซู ตรัสอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่ออกจากปาก ก็มาจากใจ การแสดงออกของเรา มักจะมาจากสิ่งที่อยู่ภายในเสมอ และเราจะตอบสนองต่อพระคำของพระเจ้าไม่ได้เลย ถ้าปราศจากพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำ อสค 36:27 “เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในเจ้า โน้มนำเจ้าให้ปฏิบัติตามกฏหมายของเรา และใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา  พระเจ้าทรงสนใจว่า จิตใจของเราเต็มล้นด้วยพระคำและล้นออกมาเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับพระวจนะนั้นอย่างไร จงสำแดงพระวจนะของพระเจ้าด้วยชีวิตของเรา และคนรอบข้างจะเห็นพระเยซูจากการประพฤติของเรา และพระเจ้าจะได้รับเกียรติผ่านชีวิตของเรา ขอพระเจ้าช่วยเราที่ความประพฤติของเราจะสำแดงออกถึงความเชื่อในพระเจ้าของเรา    พระเจ้าประสงค์ให้เรามีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวและสำแดงพระวจนะของพระเจ้าให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้อื่น ดังนั้น ขอให้เรายึดพระวจนะของพระเจ้าอย่างหนักแน่นมั่นคง โดยฝังไว้ในความคิด จารึกไว้ที่จิตใจ  และสำแดงออกเป็นการกระทำ  

ขอพระเจ้าอวยพระพรพี่น้องทุกท่านค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น