สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2012
เทศนาโดย อ.คาเลป ไวรี่
พระเจ้าให้เกียรติกับพระวจนะของพระเจ้า
และพระเจ้าก็ให้เกียรติกับผู้รับใช้ของพระองค์เช่นกัน
พระจ้าจะทรงตอบสนองต่อความเชื่อของเขา ที่ไหนมีความเชื่อ
ที่นั่นก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ดังนั้นให้เราตอบสนองด้วยความเชื่อ
ความเชื่อทำให้สิ่งที่อยู่บนสวรรค์เข้ามาในชีวิตของเราได้
เราถูกเรียกมาให้แตกต่างจากคนอื่น คนอื่นอยู่ในความกลัว พระเจ้าเรียกเรามา
และพระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับเรา ทำไมพระวิญญาณบริสุทธิ์ต้องเข้ามาในโลก
กจ.1:8 บอกว่า ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช
เมื่อพระวิญญาณเสด็จมาเหนือท่าน เพื่อเราจะได้เป็นพยานไปทั่วโลก
เราเป็นตัวแทนไม่ว่าเราไปอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เราเป็นเหมือนทูตของพระเจ้าในที่นั้น
เราจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้จักพระเจ้าได้อย่างไร
สิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นผ่านชีวิตของเรา พระเยซูทรงให้คำสั่งหนึ่งแก่เราก่อนที่จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ใน
มธ.28:19-20 บอกว่า
เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเรา
เป้าหมายของพระเจ้าและพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เปลี่ยนแปลง แม้เวลาจะเปลี่ยนไป
แผนของพระเจ้ามีแผนเดียวคือการนำคนให้กลับมาหาพระเจ้า
แผนของเราก็ควรมีแผนเดียวกับพระเจ้า คือการประกาศนำคนกลับมาหาพระเจ้า
เราพร้อมที่จะให้พระเจ้าใช้เราในทุกที่ทุกเวลาหรือยัง
ให้เรารับการเติมเต็มด้วยพระวิญญาณและก้าวออกไปด้วยความเชื่อ พระองค์สัญญาว่าจะอยู่กับเราทั้งหลายเสมอไป
(มธ.28:20) พระเยซูสัญญาเช่นนี้เพราะอะไร
เพราะว่าพระเยซูกำลังจะเสด็จกลับไปอยู่กับพระบิดา
และจะส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มาอยู่กับเรา ให้เราก้าวออกไปเก็บเกี่ยว
เพราะว่าข้าวในนาก็เหลืองอร่ามแล้ว (ยน.4:35)
ถึงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยว และนี่เป็นเวลาแห่งการเก็บเกี่ยว ให้เราตระหนักว่าพระเจ้าสามารถใช้เราทั้งหลายได้
เราสามารถใช้ชีวิตของเราในการเป็นพยาน
ด้วยการกระทำ คำพูด ความคิด
เราสามารถเรียนแบบจากชีวิตของดาเนียลและเพื่อนๆทั้งสามของเค้าได้ (ดนอ.3:16-18, 20-21) ทั้ง ชัครัค เมชาค
เอเบดเนโก ที่ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้ว่าการลงโทษ หรือความตายกำลังรออยู่ข้างหน้าก็ตาม
ทั้งดาเนียลและเพื่อนๆของเค้าไม่ยอมที่จะกราบไหว้รูปเคารพและไม่ยอมกินอาหารที่ถวายให้กับรูปเคารพแล้ว
และเราได้เห็นการช่วยกู้ที่มาจากพระเจ้า พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา เราไม่ต้องกลัวไฟที่จะเข้ามาเผาผลาญเรา
เพราะไม่มีไฟไหนใหญ่กว่าพระเจ้า ท่าทีของเราต้องถูกต้องเหมือนกับท่านทีของดาเนียลและเพื่อนๆ
คนเหล่านั้นไม่ได้มองดูที่ไฟ แต่มองดูที่พระเจ้า มี 2 สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเพื่อนๆ
ของดาเนียล
1.พวกเค้าทั้งสามคนมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและต่อกัน
ทั้งสามคนมีความสนิทสนมต่อกัน รักผูกพันกัน ให้เกียรติกัน และมีความเชื่อเหมือนกัน
เพื่อนที่ดีก็สามารถที่จะช่วยเหลือเพื่อนได้
ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้านี้เองทำให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของพวกเขาทั้งสามคน
ทำให้พวกเขาผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายมาได้ เช่นเดียวกัน เราก็จะสามารถผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตของเราได้เช่นกัน
เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและกับพี่น้องในคริสตจักร
เราเห็นคริสตจักรในสมัยแรกๆ พวกผู้เชื่อ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
และสามัคคีธรรมด้วยกันทั้งที่คริสตจักรและตามบ้านทุกวันเรื่อยไป (กจ.2:46) ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องทำให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ
ที่เข้ามาในชีวิตของเราได้
2. มีวิญญาณที่ถูกต้องและรักษาวิญญาณที่ถูกต้องเอาไว้
เพื่อนๆ ทั้งสามของดาเนียล ไม่ได้มองดูที่ไฟ ไม่ได้บ่นต่อว่า หรือโวยวายว่าทำไมถึงเกิดปัญหานี้กับเรา
ไม่ได้บ่นถึงความยากลำบาก ไม่ได้ให้ความสนใจกับปัญหาหรือไฟที่อยู่ต่อหน้า
มากกว่าความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า (2คร.4:13) เพื่อนๆ ของดาเนียลเชื่อจึงพูดในสิ่งที่เชื่อ
ดังนั้นให้เราเชื่อในพระเจ้าและพูดในสิ่งที่เราเชื่อ ให้เราบอกว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ
ข้าพเจ้าจึงพูด” คนที่สามารถเอาชนะตัวเองได้คือคนที่ยิ่งใหญ่
เหมือนพระคัมภีร์บอกว่า “บุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ตีเมืองได้” (สภษ.16:32) เราต้องควบคุมตัวเองและจิตใจของเราให้ได้ด้วยการพึ่งพาพระเจ้า (สภษ.18:14) จิตใจที่ชอกช้ำใครจะทนได้เล่า เราต้องระมัดระวังรักษาจิตใจของเรให้ดี
ให้เรามีความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าและผูกพันกับพี่น้องในคริสตจักร
ให้เราระมัดระวังที่จะรักษาจิตใจของเรา ท่าทีของเราให้ถูกต้องอยู่เสมอ
และเราจะสามารถเผชิญปัญหาต่างและสามารถเอาชนะอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตของเราได้
ไม่ว่าปัญหานั้นจะดูใหญ่โตแค่ไหน จงจำไว้ว่า “พระเจ้าของเราใหญ่กว่ามาก”
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น