25 พฤษภาคม 2555

ลักษณะชีวิตใหม่ในพระคริสต์


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2012
พระธรรม ลูกา 5:12-15
เทศนาโดย อ.งามพันธ์  พิมพ์พรรณ์

พระธรรมตอนนี้ได้กล่าวถึงคนโรคเรื้อนมาร้องขอให้พระเยซูรักษาโรคเรื้อนของตนเองให้หาย โดยกล่าวว่า “เพียงแต่พระองค์จะโปรดก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์หายโรดได้” คนโรคเรื้อนเป็นที่น่ารังเกียรติในสังคมเวลานั้น ความจริงก็ยังเป็นที่น่ารังเกียรติในปัจจุบันด้วย คนโรคเรื้อนเป็นเหมือนคนบาป คือคนที่มีมลทิน จะต้องถูกแยกตัวออกไปอยู่ต่างหาก ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้ การที่คนโรคเรื้อนคนนี้มาหาพระเยซูใจกลางเมือง ก็เป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ได้มาขอร้องวิงวอนกับพระเยซูให้รักษาเขาให้หาย และพระเยซูก็ทรงรักษาเขาให้หายตามที่เขาต้องการ พระเยซูไม่ได้รังเกียจคนโรคเรื้อน เช่นเดียวกับที่พระเยซูไม่ได้รังเกียจคนบาปอย่างเรา ลักษณะชีวิตของคนโรคเรื้อนทำให้เราเห็นลักษณะชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์ 4 ประการ คือ
1. ชีวิตที่มีความเชื่อ (ลก.5:12)
คนโรคเรื้อนต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสามารถเข้าถึงพระเยซู เพราะว่ามีคนจำนวนมาก อีกทั้งคนโรคเรื้อนเป็นที่ต้องห้ามในสังคมไม่สามารถที่จะมาอยู่ปะปนกับคนทั่วไปได้ ต้องอยู่ห่างจากคนอื่น (ลก.17:12) แต่คนโรคเรื้อนมีความเชื่อว่า พระเยซูสามารถที่จะรักษาเขาให้หายได้ จึงใช้ความพยายามบวกกับความเสี่ยงเพื่อเข้ามาหาพระเยซู เพราะว่าถ้าไม่มีความเชื่อแล้วจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าไม่ได้เลย (ฮบ.11:6) คนโรคเรื้อนกับคนบาปมีความใกล้เคียงกันมาก เพราะว่าคนโรคเรื้อนขาดสันติสุขในชีวิต คนบาปก็ขาดสันติสุขในชีวิตด้วยเช่นกัน เราจะต้องเข้ามาหาพระเจ้าด้วยความเชื่อ (ฮบ.4:16) พระเยซูเป็นคำตอบเดียวสำหรับชีวิต (กจ.4:12) เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย พระองค์ได้ทรงไถ่บาปเราทั้งหลาย (รม.6:23) ความบาปทำให้เราป่วยไข้ ไม่เพียงความป่วยไข้ฝ่ายร่างกาย ยังทำให้เราป่วยไข้ฝ่ายวิญญาณอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำให้เราป่วยในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และด้านอื่นๆอีกมากมาย
2. ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงโดยพระเยซู (ลก.5:13)
พระเยซูตรัสว่า “เราพอใจเจ้าแล้ว...ในทันใดนั้นโรคเรื้อนของเขาก็หาย” พระเยซูทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับคนโรคเรื้อน พระเจ้าตอบสนองความต้องการของคนโรคเรื้อน คนโรคเรื้อนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เราลองจินตนาการดูว่าคนที่ถูกสังคมรังเกียจ ไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้ ต้องแยกไปอยู่ต่างหาก จะดีใจสักเพียงใดที่ได้กลับเข้ามาอยู่ร่วมกันในครอบครัวอีก กลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง คนบาปที่กลับใจใหม่และเขื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ จะได้รับการเปลี่ยงแปลงจากพระองค์ เราต้องยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลง เราต้องยอมให้พระเจ้าสร้างเราขึ้นมาใหม่ เพราะว่าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว (2คร.5:17) อ.เปาโลได้วิงวอนเราทั้งหลายให้ถวายตัวของเราให้กับพระเยซูคริสต์ (รม.12:1-2) ในพระคัมภีร์เดิมใช้สัตว์ที่ตายแล้วเป็นเครื่องบูชาแต่ในปัจจุบันใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์ของเรา ชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงถวายแด่พระเจ้า อ.เปาโลบอกว่า “ข้าพระเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว” (กท.2:20) เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตของเราอีกต่อไป แต่พระคัมภีร์บอกว่าเราต่างก็หลงเจินไปเหมือนแกะไม่มีผู้เลี้ยง (อสย.53:6) แต่พระเจ้าได้เสด็จมาเพื่อช่วยเหลือคนที่หลงไปให้กลับมา (ลก.9:10) พระเจ้าต้องการที่จะเปลี่ยนชีวิตใหม่ให้กับเรา
3. ชีวิตที่สำแดงพระคริสต์ (ลก.5:14)
พระเยซูบอกให้คนโรคเรื้อนไปสำแดงตัวแก่ปุโรหิต เพื่อให้ปุโรหิตตรวจสอบว่าหายจากโรคเรื้อนแล้ว คนโรคเรื้อนได้ไปแสดงตัวกับปุโรหิต ซึ่งก็จะต้องถูกซักถามว่า หายอย่างไร ไปทำอะไรมาถึงได้หายแล้ว คนโรคเรื้อนก็คงบรรยายให้ปุโรหิตฟังอย่างละเอียด และก็คงจะพูดกันปากต่อปาก ทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ชีวิตที่หายจากโรคเรื้อนเป็นชีวิตที่สำแดงพระเยซูคริสต์อย่างชัดเจน เราจะต้องสำแดงพระเยซูที่อยู่ในชีวิตของเราให้ชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยการสวมสภาพใหม่ที่ทรงสร้างขึ้น (อฟ.4:24) เราเป็นเหมือนตะเกียงที่ส่องสว่างให้คนทั้งหลาย (มธ.5:16) คริสเตียนจะต้องเป็นคนที่เปลี่ยนโลกนี้ เปลี่ยนสังคม เปลี่ยนชุมชน ให้เราเป็นความสว่างของโลกนี้ ให้เป็นแสงสว่างที่จะส่องทางให้กับคนตาบอดฝ่ายวิญญาณ
4. ชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเยซู (ลก.14-15)
คนมากมายมาแสวงหาพระเยซูคริสต์ เพื่อต้องการอยากรู้จัก ต้องการอยากเห็น ต้องการความช่วยเหลือ คนโรคเรื้อนทำให้พระเยซูเป็นที่รู้จักและได้รับเกียรติ ชีวิตของเรา การกระทำของเรา คำพูดของเราจะต้องทำให้พระเยซูได้รับเกียรติ พระเจ้าเรียกเรามาเพื่อให้ถวายเกียรติแด่พระองค์ คนจะสรรเสริญพระเจ้าเพราะเรา (1พศด.16:24-25) อ.เปาโลบอกว่าจงถวายเกียรติแด่พระเจ้า (1คร.6:20) เปโตรบอกว่าเราเป็นชนชาติบริสุทธิ์ของพระเจ้า จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด (1ปต.2:9) ให้เราซื่อสัตย์ในบทบาทหน้าที่ของเรา ให้ชีวิตของเราเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น แต่ต้องทุกวันในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้วยการกระทำ คำพูดหรือการแต่งตัวของเรา ต้องถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะว่าพระเยซูได้ถ่ายเราชีวิตของพระองค์ ทรงซื้อเรามาด้วยราคาแพง จงมีชีวิตใหม่ในพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

11 พฤษภาคม 2555

มาทักทายหลังจากหายไปนาน

สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่น้องที่แวะเวียนเข้ามาทักทายกัน ผมต้องขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทข้อมูลร่วมทั้งคำเทศนา และอื่นๆ เหมือนเช่นเคย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาผมและทีมงานต่างก็ติดภาระกิจของคริสตจักร อีกทั้งเป็นช่วงที่ผมเตรียมคำสอนของค่ายประจำปีของคริสตจักร ทำให้ไม่ได้เข้ามาอัพเดทข้อมูลให้

ในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม ผมจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียเพื่อร่วมงานสัมมนาการอธิษฐาน จะพยายามนำสิ่งที่ได้เห็นได้เรียนรู้มาแบ่งปันให้กับพี่น้องและเพื่อนๆได้อ่านกันครับ

ตอนนี้เว็บไซท์ของคริสตจักรก็มีปัญหาโดนไวรัสเข้ามาทำลาย พี่น้องที่เป็นทีมงานเเละทำเว็บให้กับคริสตจักรยังไม่มีเวลาแก้ไขให้ ต้องขออภัยพี่น้องและเพื่อนๆด้วยครับ จะเร่งแก้ไขให้สามารถกลับมาเป็นพระพรให้กับพี่น้องโดยเร็วครัว

ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านครับ

คุณสมบัติแห่งการเป็นผู้นำ

หากจะกล่าวว่า "ความสำเร็จหรือความล้มเหลว" ของทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำก็ว่าได้ หรือจะกล่าวว่า "ผู้นำ" คือ "กุญแจ" ที่จะไขเปิดประตูออกไป แต่ "กุญแจ" ที่จะไขประตูนั้น มีทั้งลูกที่ไขไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลว ขึ้นอยู่กับภาวะของผู้นำแต่ละท่าน

ถ้าหากท่านต้องการเป็นผู้นำ และเป็นผู้นำที่ีประสบความสำเร็จ จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจว่าผู้นำที่ประสบความสำเร็จมีคุณสมบัติอย่างไร ด้านไหนบ้าง


ขอบคุณพระเจ้า


ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทรงอยู่ร่วมกับพวกเราในค่ายที่พวกเรา 2 คริสตจักรได้ร่วมกันจัด เราได้เห็นการเคลื่อนไหวของพระเจ้าท่ามกลางพวกเรา ทำให้เราต่างก็เต็มไปด้วยพระพร อัดแน่นไปด้วยพระวจนะของพระเจ้า เต็มอิ่มไปด้วยการนมัสการทั้ง 3 วัน 2 คืน สุขสนุกสนานกับกีฬาและสันทนาการ
หลายคนบอกว่าเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ไม่อยากจากกันเลย อยากจะอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้อีก ขอบคุณพระเจ้าที่ชาวค่ายผูกพันกัน
เราต่างก็มีเป้าหมายที่และสิ่งที่พระเจ้าได้พูดกับเรา ที่เราจะกลับมาแล้วเราจะทำร่วมกันเพื่อขยายอาณาจักรของพระเจ้า พวกเราเชื่อว่า พระเจ้าจะทรงทำให้สำเร็จตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องชาวค่ายและสมาชิกของคริสตจักรแห่งพระคุณและคริสตจักรแห่งสันติภาพ ให้มีชีวิตที่เกิดผลในทุกๆด้านครับ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการปกป้องให้ปลอดภัย

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักความเมตตาและการปกป้องของพระองค์ เรื่องมีอยู่ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่ผมใช้อยู่เป็นประจำนั้นเกิดติดไวรัสขึ้นมา ไม่ทราบว่าเป็นชนิดไหน ชื่ออะไร ติดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่มันแสดงอาการเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยที่มันเริ่มล็อคโฟเดอร์ทีละโฟเดอร์ เริ่มที่จะล็อคโปรแกรมบางโปรแกรม ในที่สุดมันก็เริ่มรีสตาร์ทเครื่องเมื่อเปิดไปได้สักประมาณ 5-10 นาที มันทำอยู่อย่างนี้ ผมก็หาทางแก้ไขแต่ก็ไม่สามารถ ตอนแรกคิดว่าเกิดจากการที่ไมโครซอฟล็อค Windows ของผม แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะว่าเคยเเก้ไขไปแล้ว แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรก็ลงใหม่ จึ่งไปเอาแผ่น WindowsXP ที่มีอยู่มาลง เครื่องมันฟ้องว่าไม่สามารถลงได้ เพราะไม่มี Hard Disc เอาละสิ นึกว่าทำผิดวิธี แต่ก็ไม่ใช่เพราะลงมาหลายเครื่องแล้ว ในที่สุดก็ต้องหยุดเอาไว้แค่ตรงนั้น เพราะว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เอาไว้ตอนเช้าค่อยถามผู้รู้ดีกว่า จึงไปโพสขอความช่วยเหลือในเฟสบุ๊ค

พอเช้าขึ้นมาก็มีทั้งพี่น้องโพสแสดงความห่วงใยมาและก็มีผู้รู้บอกมาว่าพอแก้ได้ จึงได้คุยกันหลังไมค์ ในที่สุดจึงได้ไปเยี่ยมพี่น้องไกลบ้านอีกครั้ง พร้อมกับพกภาระไปให้ช่วยเหลือด้วย

ปรากฎว่าโดนไวรัสกินอย่างรุนแรง มันเริ่มล็อคโฟเดอร์ทำให้ไม่สามารถเปิดโฟเดอร์ที่มันล็อคได้ มันกำลังล็อค Hard Disc ของผม ถ้ามันทำสำเร็จก็คงแย่แน่นอน ขอบคุณพระเจ้าที่มันยังทำไม่สำเร็จ และต้องขอบคุณพระเจ้าที่มันไม่ได้ทำลายข้อมูลในเครื่องของผม

ปลายทางที่ต่างกัน


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม 2012

พระธรรม มัทธิว 11:16-30
พระเยซูได้พูดเหมือนเป็นคำถามที่ถามขึ้นมาว่า เราจะเปรียบคนยุคนี้เหมือนกับอะไรดี เพราะว่าพระองค์ทรงสงสัยในความคิดของคนในเวลานั้นว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ เมื่อเขามองดูยอห์นที่ไม่กินดื่มก็บอกว่าเป็นคนที่มีผีเข้าสิง แต่เมื่อมองดูพระเยซูซึ่งทั้งกินและดื่ม ก็หาว่าพระองค์เป็นพวกกินเติบและขี้เมา ซึ่งไม่ว่าจะทำอย่างไรก็จะมีเรื่องที่จะติติงทั้งสิ้น ไม่มีใครดีในสายตาของคนเหล่านั้นเลย พระองค์จึงได้ติเตียนพวกคนเหล่านั้นว่า ว่าวิบัติจะเกิดขึ้นกับเจ้า ส่วนในตอนท้ายของพระธรรมตอนนี้พระองค์พูดกับคนอีกกลุ่มหนึ่งว่าผู้ที่แบกภาระหนักจงมาหาเรา จะทำให้หายเหนื่อย นั่นแสดงว่า มีคนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเอาแต่ต่อว่าติเตียน อีกกลุ่มหนึ่งฟังด้วยความสนใจและตอบสนองต่อพระเยซูคริสต์ คนสองกลุ่มนี้จึงมีปลายทางที่ต่างกัน คนที่ไม่เชื่อที่เอาแต่ต่อว่าติเตียนก็จะได้อย่างหนึ่ง ส่วนคนที่ตอบสนองก็จะได้รับผลอย่างหนึ่ง ปลายทางที่ว่าเป็นดังนี้
1. ได้รับการพิพากษา (16-24)
คนที่ไม่เชื่อในพระเยซู ไม่ตอบสนองต่อพระราชกิจของพระองค์ ดังที่พระองค์ได้กล่าวเป็นคำเปรียบเทียบว่า ฉันได้เป่าปี่ให้พวกเธอฟัง และเธอไม่ได้เต้นรำ คือคนที่ไม่ตอบสนอง คนเหล่านี้ก็จะต้องได้รับการพิพากษา คนที่มีอคติก็จะไม่เกิดปัญญา เห็นเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ๆ (1คร.1:18) คนคิดว่าตนเองสามารถที่รอดได้ด้วยกำลังหรือสติปัญญาของตนเอง แต่พระเจ้าบอกว่า โลกจะไม่รู้จักพระเจ้าได้ด้วยปัญญาของตนเอง (1คร.1:21) ดังนั้นพระปัญญาของพระเจ้ายากที่จะเข้าใจได้ (รม.11:33) คนที่ไม่ตอบสนองต่อพระราชกิจของพระเจ้า จะต้องถูกพิพากษา เพราะบาปของตน (มธ.11:21-24) นรกบึงไฟจึงเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่กลับใจใหม่ (มธ.23:33) พระองค์ได้ทรงเตรียมนรกเอาไว้สำหรับคนเหล่านั้น (2ปต.2:17) เราต้องกลับใจใหม่แล้วรีบนำคนให้มาถึงความรอด สอนให้เขาตอบสนองต่อพระราชกิจของพระเจ้า
2. ได้รับพระพร (มธ.11:25-30)
คนที่ไม่ตอบสนองจะได้รับการพิพากษา ส่วนคนที่ตอบสนองต่อพระราชกิจของพระเจ้า ก็จะได้รับพระพร คนที่เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักให้มาหาพระเจ้า พระองค์จะทรงให้หายเหนื่อยและเป็นสุข พระพรที่ได้รับ คือ ไม่ต้องเหนื่อยและเป็นสุข ไม่ต้องวิ่งตามหา ไม่ต้องแบกภาระที่เกินกว่ากำลังที่เราจะสามารถแบกด้วยตนเอง เพราะว่าพระเจ้าทรงมาร่วมกับเราในการแบก พระเจ้าเชิญชวนให้คนที่หิวกระหาย คนที่มีปัญหา คนที่มีความทุกข์ คนที่เจ็บป่วย คนที่มีความต้องการความช่วยเหลือให้เข้ามา พระองค์จะทรงประทานน้ำแห่งชีวิตให้กับผู้นั้น โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย เพราะว่าพระองค์มาเพื่อจะให้เราทั้งหลายได้รับอย่างครบบริบูรณ์ (ยน.10:10) พระองค์ทรงเป็นอาหารแห่งชีวิตสำหรับคนที่เข้ามาหาพระองค์ (ยน.6:35) คนที่วางใจในพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร์ ได้รับอย่างครบบริบูรณ์ (ยน.6:47, 7:38, 11:25-26) ชีวิตของเขาจะไม่ต้องอยู่ในความมืด (ยน.12:46) ดังนั้นคนที่กลับใจใหม่และตอบสนองต่อพระราชกิจของพระเจ้า จะได้รับพระพรฝ่ายวิญญาณ (อฟ.1:3) เราควรกลับใจใหม่และตอบสนองต่อพระราชกิจหรือพระสุรเสียงของพระเจ้า เพราะเรารู้ว่า ปลายทางของคนที่ตอบสนองกับคนที่ไม่ตอบสนองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะว่า พระเจ้าจะพิพากษาโทษคนที่ไม่เชื่อ นรกบึงไฟจะเป็นรางวัลสำหรับคนที่ไม่กลับใจใหม่ ส่วนคนที่กลับใจใหม่ เขาจะได้รับพระพร ทั้งที่อยู่ในโลกนี้และหลังจากตายจากโลกนี้แล้ว

ขอพระเจ้าอวยพรครับ