11 ตุลาคม 2554

ขอแสดงความห่วงใย

ในช่วงเวลานี้มีพี่น้องคนไทยมากมายโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคภาคเหนือและ ภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็น สุโขทัย พิจิต โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่ นครสวรรค์ ลพบุรี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี นนทบุรี ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนัก บางที่บางแห่งน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานาน บางที่น้ำท่วมมากเกิดความเสียหาและเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งเรื่องการกิน การอยู่ รวมทั้งการขับถ่าย ได้รับความยากลำบากมาก บางพื้นที่ทางราชการและความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงได้ทำให้ต้องได้รับความยากลำบากหนักขึ้น

ผมได้ติดตามดูภาพจากข่าวช่องต่างๆ เห็นแล้วก็อดสงสารคนเหล่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อน ได้หนุนใจให้พี่น้องในคริสตจักรอธิษฐานเผื่อ ยิ่งได้ยินข่าวมาว่าจะมีพายุเข้ามาอีก 2 ลูก ซึ่งก็ยิ่งจะทำความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น

แต่ขอบคุณพระเจ้า ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีด้วย เพราะว่ามีคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกันอีกมาก ต่างก็ออกมาให้การช่วยเหลือทั้งภาครัฐและเอกชน ความช่วยเหลือหลั่งไหลมาอย่างมากมาย แม้ว่าจะมากมายอย่างไรก็คงไม่เพียงพอหรือชดเชยกับความเดือดร้อนที่พี่น้องคนไทยได้รับ

ผมได้โทรศัพท์ไปสอบถามคนที่ผมรู้จักที่อยู่ทางภาคเหนือว่าฝนยังตกอยู่หรือเปล่า ได้รับคำตอบมาว่าตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ฝนหยุดตก ซึ่งก็ทำให้น้ำเหนือที่มีมากอยู่แล้วจะได้ลดน้อยลงไป จะไม่ไปซ้ำเติมให้กับคนที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง

ตอนนี้ก็มีการเตือนกันมากว่าพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯ ที่มีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมมีหลายพื้นที่ แม้ว่าจะมีการป้องกันมากเท่าไหร่ก็ตาม โอกาสที่เกิดน้ำท่วมก็มีมาก หรือในบางพื้นที่ เช่น มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง คลองสามวา น้ำท่วมแล้ว มีพี่น้องในคริสตจักรมีบ้านอยู่มันบุรีได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอวแล้วขอพระเจ้าทรงปกป้องพวกพี่น้องเหล่านั้นด้วย

ฝากพี่น้องช่วยกันอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงปกป้องคุ้มครองพี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณครั้งนี้ให้ได้รับความปลอดภัยทุกคน และขอพระเจ้าทรงให้พายุที่กำลังจะเข้าประเทศไทยใ้ห้ไปตกที่ทะเล เพื่อจะได้ไม่ซ้ำเติมอีก

อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้สิ่งใดเกิดขึ้น นั่นแสดงว่าพระเจ้าทรงมีสิ่งดีที่ซ่อนอยู่ ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสที่คริสเตียนจะได้ร่วมใจกันช่วยเหลือคนอื่น และได้สำเเดงชีวิตของการเป็นเกลือและแสงสว่าง เป็นตัวแทนของพระเจ้า

ที่คริสตจักรฯ ได้รับการติดต่อจากพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขอให้ช่วยเหลือพวกเขาด้วย พวกเราจึงได้ร่วมใจกันถวายเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องเหล่านั้นที่ประสบกับความยากลำบาก หากพี่น้องท่านใดต้องการมีส่วนในการถวายร่วมกับคริสตจักรแห่งสันติภาพ สามารถติดต่อได้ที่ อ.สวัสดิ์ 089-117 0770 (ขอรับเป็นเงินเท่านั้น เพื่อว่าจะได้โอนไปให้กับคริสตจักรที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง)

พี่น้องลองมองดูนะครับว่า ท่านสามารถที่จะเป็นพระพรกับพี่น้องที่ไหนได้บ้าง อาจจะไม่มากมายอะไรนักแต่เราทำเต็มที่ของเรา ผมเชื่อว่า พี่น้องที่ประสบกับความยากลำบากจะได้รับกำลังใจจากเรา หรือเราอาจจะไปช่วยคนที่ไม่เป็นคริสเตียนก็ได้เพื่อส่งผ่านความรักของพระเจ้าไปสู่คนเหล่านั้น

ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพรพี่น้องที่มีส่วนในการช่วยเหลือคนเหล่านั้น ให้ได้รับพระพรจากพระเจ้าอย่างเหลือล้น เช่นเดียวกับน้ำใจที่ท่านมีอยู่เต็มเปี่ยมครับ

ถวายความสำเร็จ

สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2011

พระธรรม เนหะมีย์ 12:27-47
หลังจากที่เนหะมีย์ได้สร้างกำแพงเยรูซาเล็มสำเร็จอย่างงดงามภายในระยะเวลาอันสั้นเพียง 52 วัน ซึ่งความสำเร็จนี้เนหะมีย์รู้เป็นอย่างดีว่า พระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคนอีกมากมายที่มีส่วนในความสำเร็จนี้ ทั้งกลุ่มของผู้นำ กลุ่มของอาสาสมัครและประชาชนทุกคนก็มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนความสำเร็จครั้งนี้ เพราะพระเจ้าผู้ทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เนหะมีย์จึงได้ถวายความสำเร็จนี้แด่พระเจ้า การถวายความสำเร็จแด่พระเจ้าครั้งนี้ มาจากท่าทีภายในจิตใจของคนอิสราเอล ที่ต้องการแสดงออกมาเป็นการกระทำ ซึ่งเราสามารถเห็นและนำมาเป็นแบบอย่างในชีวิตของเราได้ ดังนี้

1. ถวายด้วยความยินดี (นหม.12:27)
อิสราเอลมีความเปรมปรีย์เป็นอย่างยิ่งที่เห็นการทรงสถิตของพระเจ้าตลอดเวลาที่ทำการสร้างกำแพงเยรูซาเล็ม เราสามารถเห็นได้ว่า พระเจ้าทรงกระทำให้เขาเปรมปรีย์ด้วยความชื่นบาน (นหม.12:43) ความยินดีของเขาได้ยินไปไกลมาก นั่นแสดงว่าเป็นความยินดีของทุกคน เป็นความยินดีที่เต็มเปี่ยมในหัวใจและชีวิตของคนอิสราเอล เพราะพวกเขาตระหนักว่าพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลัง ชีวิตของเราก็เช่นกันเรามีพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเรา  เราจึงมาถวายความสำเร็จในชีวิตของเราด้วยความชื่นชมยินดี ในทุกวันอาทิตย์ที่เราไปคริสตจักร เราไปนมัสการพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี 

2.  ถวายดัวยใจขอบพระคุณ (นหม.12:27)
คนอิสราเอลถวายความสำเร็จด้วยใจขอบพระคุณพระเจ้า เพราะเราทราบแล้วว่าพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในชีวิตของเรา คนอิสราเอลขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทรงให้การช่วยเหลือตลอดระยะเวลาในการสร้างกำแพงเยรูซาเล็มที่ถูกทำลายไป และสำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 52 วัน เมื่อเราศึกษาพระธรรมเนหะมีย์เราพบว่าเนหะมีย์ประสบกับการขัดขวาง และปัญหามากมาย กว่าจะทำเสร็จ ต้องเผชิญกับการขัดขวามทั้งภายในและภายนอก แต่ก็โดยพระคุณของพระเจ้าที่มีเพียงพอสำหรับคนของพระเจ้า เมื่อพระเจ้ามีพระคุณเพียงพอกับเนหะมีย์ พระเจ้าก็มีพระคุณเพียงพอกับเราทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน คนที่มีใจขอบพระคุณคือคนที่กลับใจใหม่ (รม.1:21) (อฟ.5:20)  (ฟป.4:6) (1ธส.5:18) ดังนั้นเราควรจะตระหนักถึงพระคุณของพระเจ้าอยู่เสมอ

3. ถวายด้วยการนมัสการ (นหม.12:27, 31, 38, 42)
คนอิสราเอลถวายความสำเร็จด้วยการนมัสการพระเจ้า เพราะการนมัสการพระเจ้าเป็นการให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการงานต่างๆ ที่เราได้กระทำ ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใดๆ ให้เราเริ่มต้นด้วยการนมัสการพระเจ้า คนอิสราเอลนำเครื่องดนตรีต่างๆ ที่ตนเองมีมาใช้เพื่อการนมัสการพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นฉาบ พิณใหญ่ พิณเขาคู่ มีการแบ่งกลุ่มกันออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่เพื่อเดินนมัสการไปตามกำแพงเมือง ซึ่งเป็นการประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า มีคณะนักร้อง ที่ร้องเพลงนมัสการร่วมขบวนไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำ หรือประชาชนทุกคนต่างก็ร่วมกันนมัสการพระเจ้า  (สดด.47:6)  (สดด.40:3) ดังในเราควรสรรเสริญพระเจ้าทั้งในชีวิตส่วนตัวของเรา และร่วมกับพี่น้องคนอื่นๆ อยู่เสมอ

4. ถวายด้วยชีวิตที่บริสุทธิ์ (นหม.12:30)
บรรดาปุโรหิตและทุกคนได้ชำระตัวของตนเองให้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้เข้ามามอบถวายแด่พระเจ้า พระเจ้าต้องการให้เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์ เพราะว่าความบาปจะแยกเราออกจากพระเจ้า แต่ความบริสุทธิ์จะทำให้เราเข้าใกล้พระเจ้า เราจึงควรดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์เพื่อถวายแด่พระเจ้า พระคัมภีร์ได้บอกให้เรารู้ว่า คนที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะขึ้นไปยังบนภูเขาของพระเจ้า (สดด.24:3-6)  (ปฐก.35:2)  (อพย.19:10)  (1คร.3:16)  (อฟ.5:26)  (1ทธ.4:12)  (1ยน.1:9) ให้เรารักษาชีวิตของเราให้บริสุทธิ์และถวายแด่พระเจ้า

5. ถวายด้วยการตอบแทน (นหม.12:44-47)
เนหะมีย์ตระหนักดีว่าการสร้างกำแพงสำเร็จลงได้เพราะว่ามีพระเจ้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็จริงแต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่มีส่วนในความสำเร็จครั้งนี้ เนหะมีย์จึงได้ระลึกถึงกลุ่มคนเหล่านี้ที่มีส่วนในความสำเร็จ จึงได้มีการจัดสรรและตอบแทนให้กับคนที่มีส่วนในความสำเร็จ พระเจ้าไม่เคยเอาเปรียบใคร พระองค์จะตอบแทนให้กับทุกคนตามการกระทำของตนเสมอ เราก็ควรที่จะเป็นคนที่เห็นคุณค่าคนอื่นเช่นกัน เพราะว่าเราแต่ละคนก็เป็นกายเดียวกันของพระเยซูคริสต์ (1คร.12:12) เราจึงควรที่จะสนับสนุนกับ ช่วยเหลือกัน  (ฮบ.13:17)  (1ทธ.5:17) เราควรที่จะมองดูว่าเราสามารถที่จะตอบแทนให้ได้อย่างไร ในทางตรงกันข้ามคนที่เป็นผู้นำ หรือผู้เลี้ยงก็ไม่ควรที่จะคาดหวัง หรือทำเพื่อจะได้รับการตอบแทน
ให้เราดูว่าเรามีสิ่งใดที่จะมอบถวายแด่พระเจ้าเพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติสูงสุด จงขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี เพราะว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกสิ่งอยู่

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

04 ตุลาคม 2554

สำนักงานคริสตจักร

คริสตจักรแห่งสันติภาพกำลังปรับปรุงสำนักงานแห่งใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้

พี่น้องคริสเตียน หน่วยงาน องค์การ องค์การ ที่ต้องการประสานงานกับคริสตจักรแห่งสันติภาพ สามารถติดต่อได้หลายช่องทางดังนี้

ทางอีเมลล์
churchofpeace2010@gmail.com
ส่งถึงศิษยาภิบาลโดยตรง

ทางไปรษณีย์
คริสจักรแห่งสันติภาพ (กรุงเทพฯ)
38 ซอย เสรีไทย 63
ถนน เสรีไทย
แขวง รามอินทรา
เขต คันนายาว
กรุงเทพฯ 10230

โทรศัพท์และโทรสาร
(อยู่ระหว่างกำลังดำเนินการตรวจสอบ)

ผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จ


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2011

พระธรรม เนหะมีย์ 11:1-12:26
อิสราเอลได้มากลับมาหาพระเจ้าอีกครั้งหนึ่งด้วยการนำของเนหะมีย์ ตั้งแต่เริ่มกลับมาสร้างกำแพงเยรูซาเล็มที่ปรักหักพัง จนสำเร็จในระยะเวลาเพียง 52 วันเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ แต่เนหะมีย์ไม่ได้มองความสำเร็จเพียงแค่กำแพงถูกสร้างเสร็จ แต่เนหะมีย์มองกว่าความสำเร็จที่แท้จริงคือการรักษาความสำเร็จเอาไว้ต่างหาก เนหะมีย์จึงได้วางคนเอาไว้ตามที่ต่างๆ ตามของประทานและความสามารถ รวมทั้งการนำชุมชนอิสราเอลรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าโดยการทำพันธสัญญาต่อพระเจ้า ความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เนหะมีย์ตระหนักดีว่ามีพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เนหะมีย์ยังตระหนักดีอีกว่าความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากตัวเนหะมีย์เท่านั้นยังมีคนอื่นๆ อีกที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จ ซึ่งเราจะได้เห็นว่าผู้ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนความสำเร็จมีใครบ้าง
1. ผู้นำ (นหม.11:1, 3, 11)
ทั้งข้อ 1, 3 และ 11 ได้บอกว่ามีกลุ่มผู้นำต่างๆ ที่มีส่วนในความสำเร็จครั้งนี้ กลุ่มผู้นำจึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ถ้าปราศจากผู้นำก็เหมือนเรือที่ขาดหางเสือ ผู้นำจะเป็นผู้ที่นำทิศนำทางที่ควรจะไป ถ้าไม่มีผู้นำสังคมก็จะวุ่นวาย เช่นในสมัยผู้วินิจฉัยที่บางช่วงปราศจากกษัตรย์ประชาชนก็ทำตามใจชอบ (ผวฉ.21:25) ไม่ว่าในสังคมใดก็ตามจะต้องมีผู้นำเสมอ พระเจ้าทำงานผ่านผู้นำ 

2. อาสาสมัคร (นหม.11:1)
นอกจากกลุ่มผู้นำแล้วยังมีกลุ่มของอาสาสมัคร ที่ถวายตัวกันเข้ามาร่วมรับใช้ อาสาตัวเข้ามามีส่วนในงานที่ตนเองสามารถ พระคัมภีร์บอกว่า ประชาชนจับฉลากกันเพื่อหาคน 10% มาอยู่ในเยรูซาเล็ม ทำไมต้องถึงต้องมีการจับฉลากกัน เพราะว่าในเวลานั้น พระวิญญาณยังไม่ได้ลงมาสถิตกับคนของพระเจ้าเหมือนอย่างในสมัยพระคุณเช่นนี้ การแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้า หรือแสวงหาการทรงนำจากพระเจ้า จะทำโดยการจับฉลาก เราเห็นอาโรนจับฉลากแพะสองตัว (ลวน.16:8)  หรือในบางครั้งการจับฉลากก็เป็นการแบ่งความรับผิดชอบหรือมรดก (กดว.34:13)

3. ทุกคน (หนม.11:3-12:26)
พระคัมภีร์ตั้งแต่บทที่ 11 ข้อ 3 เป็นต้นไปได้บันทึกชื่อคน ตระกูล พงศ์พันธ์ ต่างๆ เอาไว้มากมาย แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าเห็นความสำคัญ พระเจ้าไม่ทอดทิ้งใครสักคนเดียว ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้นำและอาสาสมัครเท่านั้น แต่เกิดขึ้นเพราะว่าทุกคนรวมมือกันก็ทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้น ทุกคนต่างก็มีส่วนในความสำเร็จของงานพระเจ้าในคริสตจักรเสมอ คจ.จะเจริญเติบโตหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกทุกคนในคริสตจักร  เพราะว่าพระเจ้าให้เรามีของประทานที่แตกต่างกันเพื่อเสริมสร้างกัน เราต้องเอาของประทานเหล่านั้นที่พระเจ้าใส่ให้กับเรามาร่วมกันสนับสนุนกันในการรับใช้เพื่อให้เกิดผลสูงสุด อย่าเอาตะลันต์ที่พระเจ้าให้ไปฝังดินไว้

ดังนั้นถ้าหากเราต้องการเห็นงานของพระเจ้าเจริญก้าวหน้า เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันในการรับใช้ตามของประทานที่พระเจ้าประทานให้กับเรา ให้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติผ่านชีวิตของเรา (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.churchofpeace2010.org)

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

อบรมการเป็นพี่เลี้ยง

มีข่าวดีมาฝาก เครือข่ายอธิษฐานอวยพรประเทศไทยร่วมกับคณะกรรมการชีวิตมหัศจรรย์และคณะกรรมการเทศกาลชีวิตเปี่ยมสุข จะจัดอบรมการเป็นพี่เลี้ยง ให้กับพี่น้องคริสเตียนทุกท่านที่ต้องการจะเป็นพี่เลี้ยง หรือว่าบางท่านอาจจะเป็นพี่เลี้ยงอยู่แล้วแต่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม เืพื่อเตรียมรอบรับการประกาศในช่วงเทศกาลคริสต์มาส-วาเลนไทน์ ติดต่อแจ้งความจำนงและขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อ.วิทยา ไสยสมบัติ คจ.เอเมน Email wittaya.saiy@hotmail.com การอบรมจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 และ 19 พฤศจิกายน 2011 เวลา 10.00-15.00 น ที่คริสตจักรอันติโอเกียลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 80

03 ตุลาคม 2554

สัญญา


สรุปคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2011

พระธรรม เนหะมีย์ 9:38-10:39

เมื่อเนหะมีย์ได้พาพี่น้องสร้างกำแพงเยรูซาเล็มที่ปรักหักพังขึ้นมาใหม่เสร็จภายใน 52 วัน ซึ่งนับว่าเป็นการใช้เวลาที่น้อยมากเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ซึ่งนับว่าเป็นการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่เนหะมีย์คิดว่าความสำเร็จที่แท้จริงนั้น คือการรักษาเอาไว้มากกว่า จึงได้จัดวางกำลังคนในการดูแลรักษา การจัดวางกำลังคนเพื่อเป็นการรักษากำแพงเพื่อไม่ให้ศัตรูบุกเข้ามาได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือฝ่ายวิญญาณ เนหะมีย์จึงได้วางรากฐานฝ่ายวิญญาณให้กับพวกอิสราเอล โดยการสอนพระวจนะให้กับพวกเค้า ทำการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ได้ทรงนำพวกบรรพบุรุษของพวกเค้าออกมาจากการเป็นทาสที่อียิปต์ คนเหล่านั้นได้สำนึกถึงความผิดบาปที่บรรพบุรุษและตัวของพวกเขาเองได้กระทำ เขาตระหนักดีว่า พวกเขาได้ละเลยสิ่งที่พระเจ้าได้บัญชาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเข้าจึงตั้งใจที่จะหันกลับมาหาพระเจ้าและทำพันธสัญญากับพระเจ้า ซึ่งเป็นความตั้งใจของชุมชนอิสราเอลทั้งหมดในเวลานั้น เราได้เห็นสิ่งที่เป็นสัญญาหรือพันธสัญญาที่พวกอิสราเอลได้ทำขึ้น มีลักษณะดังนี้
1. เป็นสัญญาที่ทำสองฝ่าย (นหม.9:38ก)
สัญญาที่พวกเขาได้ทำขึ้นนั้นพวกเขาได้ทำออกมาจากใจภายในของพวกเขา ซึ่งเป็นการกระทำกับพระเจ้า สัญญาใดๆก็ตามจะมีผลบังคับใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีคู่สัญญา หรือว่ามีผู้ให้สัญญาฝ่ายหนึ่งกับผู้รับสัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง จึงจะมีผลบังคับใช้ได้ คนอิสราเอลได้ทำสัญญากับพระเจ้าและพระองค์ก็ทรงรับสิ่ที่พวกเขาสัญญาไว้
2. เป็นสัญญาที่มั่นคง (นหม.9:38ก)
การทำสัญญาของอิสราเอลกับพระเจ้านั้น ไม่ได้ทำกันอย่างเล่นๆ หรือไร้ความหมาย เราสังเกตุเห็นได้จากมีการลงนามประทับตราของคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุโรหิตหรือผู้นำ สัญญาเมื่อทำแล้วจะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มีความมั่นคง เพราะว่าเป็นสัญญาที่ทำด้วยใจของทั้งสองฝ่าย
3. เป็นสัญญาที่ชัดเจน (นหม.9:38ข)
สัญญาที่พวกเขาได้กระทำกับพระเจ้านั้นได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร มีการลงรายมือชื่อและประทับตราเอาไว้ ซึ่งมีความชัดเจนว่าพวกคนอิสราเอลมีความตั้งใจอย่างไรในครั้งนี้
4. เป็นสัญญาที่จะไม่อยู่กับความบาป (นหม.10:30)
คนอิสราเอลสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับความบาปอีก เพราะรู้ว่าความบาปได้แยกพวกเขาออกจากพระเจ้าและได้นำพวกเขาไปสู่ความยากลำบากมากมาย บรรพบุรุษของพวกเขาได้ละเลยสิ่งที่พระเจ้าสอนทำให้พวกเขาต้องได้รับความยากลำบาก
5. เป็นสัญญาที่จะพักสงบในพระเจ้า (นหม.10:31)
พวกเขาตระหนักดีว่าตลดอเวลาที่ผ่านมาพระเจ้าทรงตั้งวันสำหรับพวกเขาให้ได้เข้ามาพักสงบในพระเจ้า เพื่อจะได้มีเวลากับพระเจ้า แต่พวกเขากลับละทิ้งพระเจ้าไป
6. เป็นสัญญาที่จะถวายเพื่อพระนิเวศน์ของพระเจ้า (นหม.10:32-37ก)
พวกเขาได้จับฉลากกันเพื่อว่าใครจะมีส่วนทำอะไรเพื่อพระเจ้าบ้าง พวกเขาพร้อมใจกันที่จะสนับสนุนงานของพระนิเวศน์ ไม่ว่าจะเป็น ขนมบัง ฟืน น้ำมัน แม้กระทั่งทรัพย์
7. เป็นสัญญาที่จะถวายสิบลดอย่างสัตย์ซื่อ (นหม.10:37ข-39ก)
คนอิสราเอล ได้หันกลับมาหาพระเจ้าและตระหนักดีว่าพระเจ้าเป็นผู้ประทานทุกสิ่งให้กับพวกเขา เขาจึงจะนำผลผลิตต่างๆที่พวกเขาหามาได้ ไม่ว่าจะมาจากสัตว์ หรือแผ่นดิน พวกเขาจะนำหนึ่งในสิบมาถวายให้กับพระเจ้า  
 8. เป็นสัญญาที่จะผูกพันกันในชุมชนของพระเจ้า (นหม.10:39ข)
คนอิสราเอลตระหนักดีว่าพวกเขาผ่านอุปสรรค์ต่างๆ ทั้งการขัดขวาง การกล่าวให้ร้าย และงานที่หนักมาก มาถึงวันนี้ได้เพราะว่าความร่วมมือกันของคนในชุมชน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งและได้ดต่อสู้กับอุปสรรค์ต่างๆมาด้วยกัน
ถ้าเราต้องการเห็นความสำเร็จเกิดขึ้นท่ามกลางชีวิตของเรา เราต้องดำเนินชีวิตโดยการรักษาสัญญาที่เราทำกับพระเจ้าและพระเจ้าได้ทำกับเรา เราต้องรักษาพระบัญญัติหรือพระวจนะของพระเจ้า ไม่อยู่ในความผิดบาป มีความสัตย์ซื่อ โดยเฉพาะในเรื่องของการถวายสิบลด เพราะเป็นเครื่องพิสูจน์ใจของเราว่าเรารักพระเจ้ามากน้อยเพียงใด

ขอพระเจ้าอวยพรครับ